เอเจนซีส์ - ปารากวัยยังอึมครึม ภายหลังรัฐสภาทำการพิจารณาถอดถอนประธานาธิบดีเฟอร์นันโด ลูโก ออกจากตำแหน่งแบบเร่งรัดจนถูกประณามว่าเป็นการก่อการรัฐประหาร โดยถึงแม้ ลูโก แถลงยอมรับผลการโหวตของสภา แต่ก็ตราหน้ารัฐบาลใหม่ไร้ความชอบธรรม พร้อมเรียกร้องรื้อฟื้นกระบวนการประชาธิปไตยอย่างสันติ ขณะที่รองประธานาธิบดีเฟเดอริโก ฟรังโก ผู้ได้รับตำแหน่งประมุขคนใหม่ ถูกประเทศเพื่อนบ้านในอเมริกาบอยคอต ไม่ให้เข้าประชุมสุดยอดกลุ่มตลาดร่วมอเมริกาใต้
ลูโก อดีตบิชอปนิกายคาทอลิกนิยมซ้าย ซึ่งอันที่จริงก็เหลือเวลาดำรงตำแหน่งอีกไม่ถึง 9 เดือน อีกทั้งไม่ได้แสดงความปรารถนาจะลงชิงชัยเป็นวาระที่สอง กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (24) ว่าการปลดตนเป็นการทำรัฐประหารต่อต้านเจตจำนงของประชาชน และประกาศสนับสนุนความพยายามอย่างสันติในการรื้อฟื้นกระบวนการประชาธิปไตยในปารากวัย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกถั่วเหลืองรายใหญ่และประเทศที่ยากจนที่สุดในอเมริกาใต้
ทั้งนี้ รัฐสภาทำการพิจารณาถอดถอนปลดลูโกจากตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ (22) โดยตั้งข้อหาว่าเขาล้มเหลวในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง หลังเหตุการณ์ขับไล่ผู้บุกรุกที่ดินที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 คน แบ่งเป็นเกษตรกร 11 คนและตำรวจ 6 นายในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา
ในการพิจารณาถอดถอนดังกล่าว ลูโกมิได้ไปปรากฏตัว และทนายความ 5 คนที่ไปเป็นตัวแทนของเขา ก็มีเวลาแก้ข้อกล่าวหาต่อวุฒิสภาเพียงแค่ 2 ชั่วโมง จากนั้น วุฒิสภาซึ่งพวกที่เคยสนับสนุนลูโกจำนวนมากได้แปรพักตร์ จนกระทั่งเหลือเพียง 4 คนจำนวนทั้งสิ้น 45 คนเท่านั้นที่ยังเป็นพันธมิตรกับเขา ก็ได้ลงมติด้วยคะแนน 39 ต่อ 4 ถอดถอนลูโกออกจากตำแหน่ง
ภายใต้รัฐธรรมนูญของปารากวัย รองประธานาธิบดีเฟเดอริโก ฟรังโก เป็นผู้ที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแทน
โฮเซ เฟลิกซ์ เฟอร์นันเดซ รัฐมนตรีต่างประเทศที่ได้รับแต่งตั้งใหม่ เผยว่าอาจไปร่วมประชุมสุดยอดเขตการค้าอเมริกาใต้ “เมอร์โคซู” หลังจากฟรังโกออกตัวว่า จะงดเข้าร่วมถ้าทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
นอกจากนี้ เฟอร์นันเดซยังเรียกร้องให้ลูโกในฐานะ “พลเมืองและอดีตประธานาธิบดีปารากวัย” ช่วยคลี่คลายความตึงเครียดในภูมิภาค
ทว่า ลูโกปฏิเสธ ซ้ำบอกว่าจะเข้าร่วมประชุมสุดยอดเมอร์โคซูร์ที่จะมีขึ้นปลายสัปดาห์นี้เพื่ออธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน อาร์เจนตินา เจ้าภาพเมอร์โคซูร์วาระปัจจุบัน ประกาศว่ารัฐบาลของฟรังโกไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประชุม
ทั้งนี้ ในภูมิภาคที่ยังคงหวาดกลัวการปฏิวัติรัฐประหารและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองโดยกองทัพที่เกิดขึ้นในทศวรรษ 1970 และ 1980 การถอดถอนลูโกด้วยกระบวนการที่เร่งรัดเกินปกติเช่นนี้ จึงเรียกเสียงวิจารณ์รุนแรงโดยเฉพาะจากผู้นำฝ่ายซ้าย
เจ้าหน้าที่อาวุโสของบราซิลกล่าวว่า มีแนวโน้มที่ปารากวัยจะถูกระงับการเป็นสมาชิกเมอร์โคซูร์และอูนาซูร์ (สหภาพประชาชาติอเมริกาใต้) ที่มีอาร์เจนตินา บราซิล และอุรุกวัยรวมอยู่ด้วย และอูนาซูร์กำลังเตรียมจัดประชุมในนครลิมาของเปรู เพื่อหารือสถานการณ์ในปารากวัยซึ่งเป็นประธานกลุ่มวาระปัจจุบัน
บราซิล มหาอำนาจในภูมิภาค เรียกนักการทูตระดับสูงในปารากวัยกลับประเทศเพื่อหารือสถานการณ์ เช่นเดียวกับชิลี โคลอมเบีย เม็กซิโก เปรู และอุรุกวัย ขณะที่ประธานาธิบดีฮูโก ชาเบซแห่งเวเนซุเอลา ระงับการส่งออกน้ำมันให้ปารากวัยพร้อมถอนเอกอัครราชทูตกลับประเทศ เช่นเดียวกับอาร์เจนตินาและเอกวาดอร์
สำหรับประเทศอื่นๆ เช่น แคนาดา สเปน และเยอรมนี ให้การยอมรับรัฐบาลใหม่ของปารากวัยหลังจากที่ลูโกกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ยอมรับผลการโหวตของรัฐสภาในการปลดตน
อย่างไรก็ดี แม้ตกเป็นเป้าการวิจารณ์ของหลายประเทศ แต่บรรยากาศในอะซุนซิโอน เมืองหลวงของปารากวัย เมื่อวันอาทิตย์ถือว่าสงบเงียบเรียบร้อย มีตำรวจลาดตระเวนบนถนนน้อยกว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน ร้านรวงเปิดทำการตามปกติ และมีผู้สนับสนุนลูโกราว 2,000 คนรวมตัวประท้วงหน้าสถานีทีวีของรัฐ