สภาคองเกรสปารากวัยถอดถอนตำแหน่งประธานาธิบดีสายฟ้าแลบ

รอยเตอร์ - สภาคองเกรสปารากวัยมีมติถอดถอนประธานาธิบดีเฟอร์นานโด ลูโกออกจากตำแหน่ง ในการพิจารณากล่าวโทษอย่างสายฟ้าแลบ ในวันศุกร์ (22) ซึ่งผู้นำประเทศรายนี้ระบุว่าเทียบได้กับการทำรัฐประหาร และได้นำไปสู่การประท้วงคัดค้านโดยผู้สนับสนุนหัวหน้าพรรคฝ่ายซ้ายที่ไม่พอใจคำตัดสินนี้

ลูโก อดีตบิชอปนิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งลาออกจากศาสนจักรมาลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงฐานรับมือเหตุปะทะรุนแรงด้วยอาวุธระหว่างเจ้าหน้าที่กับชาวไร่ชาวนาประเด็นที่ดินผิดพลาดจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 คน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

วุฒิสภาลงมติด้วยคะแนน 39 ต่อ 4 เสียง และไม่ออกเสียง 2 ราย ให้ถอดถอนประธานาธิบดีลูโกออกจากตำแหน่ง หลังจากสมาชิกสภาล่างก็มีมติเห็นด้วยเกือบเป็นเอกฉันท์ โดยตามรัฐธรรมนูญ รองประธานาธิบดี เฟเดอริโก ฟรังโก ซึ่งเป็นคู่แข่งดุเดือดของลูโก จะรับทำหน้าที่ผู้นำประเทศแทนจนครบวาระในเดือนสิงหาคมปีหน้า

วุฒิสมาชิกโฮเซ มานูเอล เบโบดากล่าวว่า การถอดถอนประธานาธิบดีลูโก เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย แม้ลูโกกล่าวโจมตีว่า เป็นการประทุษร้ายต่อระบอบประชาธิปไตยในปารากวัยก็ตาม

"นี่เป็นการรัฐประหารอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากสมาชิกสภากระทำการในเวลากลางคืนเพียงไม่กี่ชั่วโมง" ลูโกกล่าวกับสถานีโทรทัศน์เทเลเซอร์ โดยที่ไม่ได้เข้าฟังการพิจารณาคดี แต่ดูผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ และให้ทนายเข้าทำหน้าที่แทน

ลูโกปฏิเสธที่จะลาออกจากตำแหน่ง ทัดทานแรงกดดันจากผู้นำทางศาสนาให้เขาลงจากอำนาจเสีย เพื่อบรรเทาความตึงเครียดภายในประเทศผู้ส่งออกถั่วเหลือง ที่มีประชากรเพียง 6 ล้านคน ทั้งยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุด และมีเสถียรภาพต่ำสุดในอเมริกาใต้

ขณะที่ ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีลูโกหลายพันคนได้ไปรวมตัวกันด้านนอกรัฐสภา ในกรุงอะซุนซิโอน และพยายามฝ่าด่านตำรวจเมื่อคำพิพากษาออกมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงแก๊สน้ำตา และใช้กระสุนยาง เพื่อสลายฝูงชนเหล่านั้น

ความรวดเร็วในกระบวนการพิจารณาโทษถอดถอนตำแหน่งประธานาธิบดีของปารากวัยครั้งนี้ สร้างความกังวลให้กับหลายรัฐบาลของประเทศอเมริกาใต้ ที่ส่งรัฐมนตรีต่างประเทศไปยังกรุงอะซุนซิโอนในคืนวันพฤหัสบดี (21) บางรายเตือนถึงความเป็นไปได้ที่ปารากวัยอาจถูกคว่ำบาตร หากลูโกถูกขับออกจากเก้าอี้