กรมที่ดินเดินหน้าจัดที่ทำกินให้ประชาชน ตั้งเป้าออกโฉนดแสนแปลงทั่วประเทศ พร้อมประสานความร่วมมือกลุ่มอาเซียน เร่งแก้ปัญหาบุกรุกที่ดินรัฐ เล็งแจกที่ดินคนจน 9,100 แปลง
นายวิศิษฎ์ ลิมป์ธีระกุล รองอธิบดีกรมที่ดินกล่าวว่า ปัญหาที่ดินนั้นแต่ละประเทศก็จะมีปัญหาและแนวทางการแก้ไขที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ สำหรับประเทศไทย สภาพปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากการขาดแคลนที่ดินทำกิน อยู่อาศัย ประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่มีฐานะยากจน โดยสภาพพื้นที่ประเทศไทยมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 320 ล้านไร่ แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ 1.ที่ดินรัฐสงวนหวงห้ามเป็นที่ดินรัฐ เช่น ที่ป่าไม้ ที่ราชพัสดุ ที่สาธารณประโยชน์ และที่สงวนหวงห้ามอื่นๆ มีเนื้อที่ประมาณ 69.3% ของประเทศ เป็นพื้นที่มีกฎหมายเฉพาะและมีหน่วยงานราชการดูแลรักษาไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ 2.ที่ดินของเอกชนที่ประชาชนสามารถมีสิทธิครอบครอง หรือกรรมสิทธิ์ได้ มีเนื้อที่ประมาณ 30.7% ของประเทศ
ทั้งนี้ ทางราชการจะออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้ ซึ่งปัจจุบัน ได้มีการออกเอกสารสิทธิให้แก่ประชาชนไปแล้วประมาณ 33 ล้านแปลง เมื่อเทียบกับประชากรในประเทศไทยประมาณ 60 ล้านคนแล้วจะเห็นได้ว่า ปริมาณที่ดินของเอกชนนั้นไม่เพียงพอต่อการอยู่อาศัยทำกินของประชาชน ส่งผลให้เกิดปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ การอพยพย้ายถิ่นฐานเข้าสู่ชุมชนเมืองปัญหาข้อพิพาทระหว่างรัฐกับราษฎรเกี่ยวกับที่ดินทำกิน
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้กรมที่ดินตั้งเป้าการออกโฉนดที่ดินในปีนี้ประมาณ 100,000 แปลงทั่วประเทศ ลดลงจากปีที่แล้วที่ออกไปแล้ว 150,000 แปลง สำหรับโครงการจัดที่ดินของรัฐขจัดความยากจน เป็นนโยบายหนึ่งในการแก้ไขปัญหาความยากจนของรัฐบาล โดยกรมที่ดินได้นำที่ดินสาธารณประโยชน์มาจัดสรรเป็นที่อยู่อาศัยทำกิน พร้อมทั้งให้การสนับสนุนสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ซึ่งในปีนี้ ได้ตั้งงบประมาณไว้ที่ 100 ล้านบาทเพื่อดำเนินการในพื้นที่เป้าหมาย 9,100 แปลง ส่งผลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นการลดปัญหาการอพยพเข้ามาทำงานในเมือง ลดความขัดแย้งระหว่างรัฐกับประชาชน และเป็นการป้องกันการขยายตัวของปัญหาสังคม อีกทั้งเป็นการป้องกันมิให้มีการบุกรุกเพิ่มเติมอีกด้วย
นอกจากนี้ กรมที่ดินได้ร่วมกับกลุ่มประเทศอาเซียนจัดทำโครงการฝึกอบรมระดับภูมิภาคอาเซียน และอาเซียนบวก 3 ด้านการจัดการที่ดินเพื่อพัฒนาชนบท และขจัดความยากจนของประเทศไทย เป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมของกลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศ โดยปีที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นการบูรณาการระหว่างโครงการจัดที่ดินของรัฐเพื่อขจัดความยากจนของสำนักจัดการที่ดินของรัฐ และโครงการพัฒนากรมที่ดิน และเร่งรัดการออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศของสำนักงานบริหารโครงการพัฒนากรมที่ดิน ซึ่งโครงการนี้ได้ประสบความสำเร็จและได้บรรจุไว้ในกรอบแผนการทำงานด้านการพัฒนาชนบท และขจัดความยากจนของกลุ่มประเทศอาเซียนปี 2554-2558