ศรีสะเกษ - “ชูชาติ” รมช.มหาดไทย มอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐแก่ราษฎรในเขตพื้นที่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ 905 แปลง ตามโครงการจัดการที่ดินของรัฐ เพื่อขจัดความยากจนและพัฒนาชนบท รวมทั้งเป็นการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ ทำให้ประชาชนผู้บุกรุกไม่ถูกผลักดันออกจากพื้นที่และไม่ถูกดำเนินคดี
วันนี้ (26 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอราษีไศล จ.ศรีสะเกษ นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ตามโครงการจัดการที่ดินของรัฐ เพื่อขจัดความยากจน และพัฒนาชนบท ให้แก่ราษฎรในเขตพื้นที่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ จำนวน 905 แปลง โดยมี นายปวีณ แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 8 พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย นางผ่องศรี แซ่จึง และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมให้การต้อนรับ และมี นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นผู้กล่าวรายงาน
นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็ง และเป็นปัจจัยพื้นฐานที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ การสร้างงาน สร้างรายได้ ให้แก่พี่น้องประชาชน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ และทำให้ประชาชนผู้บุกรุกไม่ถูกผลักดันออกจากพื้นที่ และไม่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้กรมที่ดิน เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในการดำเนินการ
ทั้งนี้ ในการดำเนินการจัดสรรที่ดินดังกล่าวนั้น กรมที่ดินได้นำที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ประชาชนเลิกใช้ประโยชน์ร่วมกัน และมีผู้บุกรุกมาจัดระเบียบการครองที่ดินโดยผู้บุกรุกจะต้องยอมรับว่าได้บุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ มาดำเนินการจัดการให้พี่น้องประชาชนได้เข้าอยู่อาศัยและทำกินตามสภาพเดิมที่ครอบครองอยู่ไม่เกิน 15 ไร่ พร้อมทั้งออกหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์คราวละ 5 ปี เมื่อครบ 5 ปีแล้ว หากปฏิบัติตามเงื่อนไข ก็สามารถขอต่อหนังสืออนุญาตได้อีก
นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า การมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ดินของรัฐให้แก่ราษฎรในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการแก้ไขปัญหาในการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์แล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือราษฎรให้มีที่ดินทำกิน และมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงขึ้น ทำให้สามารถพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ตนเอง และครอบครัว ตนจึงขอให้ราษฎรที่ได้รับการจัดสรรที่ดินดังกล่าวได้น้อมนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มายึดถือปฏิบัติเพื่อให้เกิดความผาสุกแก่ชีวิตและครอบครัวสืบต่อไป
