เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - นาวาอากาศเอกจากกกองทัพซีเรียนายหนึ่งตัดสินใจขับเครื่องบินรบหนีไปขอลี้ภัยในจอร์แดน เมื่อวานนี้ (21) ขณะที่ศูนย์เฝ้าระวังสิทธิมนุษยชนซีเรียเผย เกิดเหตุปะทะระหว่างกองกำลังความมั่นคงกับกบฏ จนมีผู้เสียชีวิตถึง 168 ศพ ซึ่งถือเป็นเหตุนองเลือดครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงถูกประกาศใช้
รามี อับเดล เราะห์มาน ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังฯ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (21) “ถือเป็นวันที่มีการนองเลือดมากที่สุด นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงถูกประกาศใช้เมื่อวันที่ 12 เมษายน และยังเป็นวันที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุดวันหนึ่ง นับตั้งแต่ประชาชนลุกฮือต่อต้านรัฐบาล”
เหตุปะทะดังกล่าวคร่าชีวิตพลเรือนไปอย่างน้อย 104 ราย, ทหาร 54 นาย และกองกำลังฝ่ายกบฎอีก 10 คน ตามข้อมูลที่ศูนย์เฝ้าระวังฯในกรุงลอนดอนรวบรวมได้จากนักเคลื่อนไหวในซีเรีย
จุดที่มีการตายมากที่สุดได้แก่เมืองฮอมส์ ซึ่งพบพลเรือนและกบฏเสียชีวิตรวม 31 ราย ขณะที่เมืองดูมาซึ่งอยู่ใกล้กรุงดามัสกัส มีพลเรือนถูกสังหารไป 30 ราย
นาวาอากาศเอกจากกองทัพอากาศซีเรียนายหนึ่งได้ขอลี้ภัยทางการเมือง หลังนำเครื่องบินขับไล่รุ่น MiG บินหลบเรดาร์ออกจากเขตแดนซีเรีย และร่อนลงจอดที่ฐานทัพของจอร์แดน เมื่อวานนี้ (21) ซึ่งนับเป็นนายทหารระดับสูงจากกองกำลังความมั่นคงคนแรกที่ตัดสินใจละทิ้งระบอบอัสซาด
ซามิห์ ไมตาห์ รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลจอร์แดน แถลงว่า “คณะรัฐมนตรีมีมติอนุญาตให้ นาวาเอก ฮัสซัน เมไร อัล-ฮามาด ลี้ภัยในจอร์แดนได้”
ก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่จอร์แดนระบุว่าพบเครื่องบินรบรุ่น MiG-21 ซึ่งผลิตในรัสเซียขอร่อนลงจอดฉุกเฉินที่ฐานทัพเมืองมัฟร็อก ใกล้กับพรมแดนซีเรีย
สถานีโทรทัศน์แห่งชาติซีเรียรายงานว่า พบเครื่องบินดังกล่าวบินอยู่ใกล้ชายแดน ก่อนที่สัญญาณจะขาดหายไปเมื่อเวลา 07.34 น. GMT ซึ่งทางจอร์แดน ระบุว่า นักบินได้นำเครื่องข้ามพรมแดนในอีกไม่กี่นาทีหลังจากนั้น
จอร์จ ซาบรา โฆษกสภาแห่งชาติซีเรีย ซึ่งเป็นองค์กรของฝ่ายกบฎ แถลงว่า “เครื่องบินลำนั้นเดินทางด้วยความเร็วสูงจากฐานทัพอากาศระหว่างเมืองดาราและสเวย์ดาทางตอนใต้ของประเทศ และบินต่ำเพื่อหลบเลี่ยงเรดาร์... นักบินคนนี้เป็นชาวเมือง เดอีร์ เอซซอร์ และครอบครัวของเขาก็ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล”
ด้านกระทรวงกลาโหมซีเรียออกแถลงการณ์ประณามฮามาดว่า เป็นคนทรยศชาติบ้านเมืองและทิ้งเกียรติของการเป็นทหาร ซึ่งตามกฎหมายทหารแล้วจะต้องถูกคว่ำบาตร
วิกตอเรีย นูแลนด์ โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมากล่าวชื่นชมความกล้าหาญของนักบินผู้นี้ โดยชี้ว่า “มันเป็นช่วงเวลาอันสำคัญ เมื่อชายคนหนึ่งตัดสินใจนำเครื่องบินราคา 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐบินหนีไปยังประเทศอื่น”
นับตั้งแต่เหตุจลาจลปะทุขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว มีทหารซีเรียที่ตัดสินใจทิ้งรัฐบาลแล้วนับหมื่นนาย โดยหลายพันนายหันไปเข้าร่วมกับกองกำลังปลดปล่อยซีเรีย เพื่อต่อต้านการปกครองโดยประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
