รอยเตอร์ - พรรคร่วมรัฐบาลกรีซที่สนับสนุนแผนรับเงินช่วยเหลือจากยุโรปคาดว่าจะมีชัยชนะเหนือพรรคฝ่ายซ้ายที่ปฏิเสธมาตรการรัดเข็มขัด ในการเลือกตั้งรัฐสภารอบสอง เมื่อวานนี้(17) ท่ามกลางความโล่งอกของประชาคมโลกที่หวาดหวั่นว่าผลเลือกตั้งกรีซอาจก่อวิกฤตการเงินระลอกใหญ่
ผลการนับคะแนนร้อยละ 97 โดยกระทรวงมหาดไทยกรีซพบว่า พรรคประชาธิปไตยใหม่มีคะแนนนำสูงสุดร้อยละ 29.7 ขณะที่พรรรคฝ่ายซ้ายไซรีซามีคะแนนตามมาติดๆ ร้อยละ 26.9 ส่วนพรรคสังคมนิยมปาซ็อกได้คะแนนโหวตร้อยละ 12.3
เนื่องจากพรรคการเมืองที่ได้เสียงมากสุดจะได้รับโบนัสเพิ่มอีก 50 ที่นั่ง หมายความว่า พรรคประชาธิปไตยใหม่และสังคมนิยมปาซ็อกจะได้ที่นั่งรวมกัน 162 ที่นั่งจากทั้งหมด 300 ที่นั่งในสภา ซึ่งทั้ง 2 พรรคนี้ต่างสนับสนุนให้กรีซรับเงินช่วยเหลือ 130,000 ล้านยูโรจากยูโรโซน
หากผลเลือกตั้งเป็นไปตามนี้ ก็เท่ากับต่อเวลาให้อนาคตของยูโรโซน ซึ่งหวั่นวิตกกันว่าชัยชนะของพรรคไซรีซาอาจส่งผลให้กรีซต้องหลุดออกจากกลุ่มประเทศผู้ใช้เงินยูโร และจะเกิดแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ที่อาจนำไปสู่การล่มสลายของระบบสกุลเงินเดียวในที่สุด
อย่างไรก็ดี ผลเลือกตั้งกรีซยังแสดงให้เห็นถึงความเห็นต่างในสังคม ตลอดจนความคับแค้นใจของประชาชนต่อการลดเงินเดือน, ตำแหน่งงาน และเงินบำนาญ ตามเงื่อนไขของการรับเงินช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรปตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นยอดรวมถึง 240,000 ล้านยูโรแล้ว
อันโตนิส ซามาราส หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่วัย 61 ปี แถลงต่อผู้สนับสนุนหลังทราบผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการว่า “วันนี้ชาวกรีซเลือกแล้วที่จะเดินอยู่บนเส้นทางของยุโรปและยูโรโซน...จากวันนี้จะไม่มีความสุ่มเสี่ยงอีกต่อไป สถานะของกรีซในยุโรปจะไม่เป็นที่กังขาอีกต่อไป”
ด้าน อเล็กซิส ทซิปรัส ผู้นำพรรคไซรีซา ซึ่งเป็นอดีตคอมมิวนิสต์และแกนนำนักศึกษาผู้ประท้วง ก็ออกมายอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยังยืนกรานจะเป็นหัวหอกต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดต่อไป
เจ้าหน้าที่พรรคสังคมนิยมปาซ็อก 2 คนยืนยันว่า พรรคพร้อมที่จะสนับสนุนพรรคประชาธิปไตยใหม่ ไม่ว่าจะโดยเข้าร่วมรัฐบาลหรือโหวตสนับสนุนรัฐบาลในสภาก็ตาม นอกจากนี้ยังขอให้พรรคไซรีซามาเข้าร่วมรัฐบาลด้วย ซึ่งฝ่ายซ้ายก็ปฏิเสธมาแล้ว
ด้านทำเนียบขาวแสดงความหวังว่า ผลเลือกตั้งกรีซจะนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยเร็ว ซึ่งจะเป็นพัฒนาการที่เหมาะเจาะกับเวลาสำหรับปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน
“ดังที่ประธานาธิบดีโอบามา และผู้นำชาติต่างๆได้กล่าวมาแล้วว่า เราเชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย หากกรีซยังคงอยู่ในยูโรโซน และรักษาคำมั่นสัญญาว่าจะปฏิรูป” เจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาว แถลง
รัฐมนตรีคลังยุโรปต่างออกมาระบุว่า เงื่อนไขแพกเกจเงินช่วยเหลือยังคงเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้กรีซพ้นจากวิกฤตหนี้สิน
“กลุ่มประเทศผู้ใช้เงินยูโรตระหนักดีถึงความพยายามของพลเมืองกรีซ และเชื่อมั่นว่าการยืนหยัดปฏิรูปงบประมาณและโครงสร้างต่อไปจะเป็นเครื่องรับประกันที่ดีที่สุดว่า กรีซจะสามารถฝ่าฟันปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมไปได้ และจะมีอนาคตอันรุ่งโรจน์ในยูโรโซน” ถ้อยแถลงร่วมจากรัฐมนตรีคลังยุโรปเผย