เจรจาจัดตั้งรัฐบาลกรีซใกล้ลงตัว คาดเสร็จสิ้นวันพุธ

เอเอฟพี - 3 พรรคการเมืองหลักของกรีซ ใกล้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว คาดการฟอร์มรัฐบาลน่าจะแล้วเสร็จในวันพุธ (19)ทันเส้นตายอย่างฉิวเฉียด โดยรัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาจัดการกับวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศและพยายามเจรจาขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเงินกู้ของอียูและไอเอ็มเอฟ

นายอันโตนิส ซามาราส ซึ่งนำพรรคประชาธิปไตยใหม่ของเขาคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งในวันอาทิตย์ (17) อยู่ระหว่างเจรจากับพรรคปาซ็อกและพรรคเล็กๆอย่างเดโมแครต เลฟต์ ปาร์ตี ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักหน่วงจากตลาดเงินและชาติมหาอำนาจของโลก ที่หวังให้มีการจัดตั้งรัฐบาลอย่างฉับพลันและนำกรีซคืนสู่เส้นทางการปฏิรูป

นายอิวานเจโลส เวนิเซลอส หัวหน้าพรรคสังคมนิยมแพนเฮเลนิก (ปาซ็อก) เปิดเผยหลังการหารือเมื่อวันอังคาร(19) ว่าข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลผสมน่าจะบรรลุในช่วงเที่ยงวันพุธ(20) ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเส้นตายกรอบเวลาในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปไตยใหม่

ด้านสื่อมวลชนกรีซรายงานว่าในข้อตกลงระหว่างพรรคการเมืองทั้ง 3 นายซามาราส วัย 61 ปี อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศซึ่งสำเร็จการศึกษาในสหรัฐฯ จะก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและมีหน้าที่สำคัญคือรับมือกับความขุ่นเคืองหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆของประชาชนต่อมาตรการรัดเข็มขัดตามเงื่อนไขเงินกู้

พรรคประชาธิปไตยใหม่ได้รับชัยชนะอย่างฉิวเฉียดเหนือพรรคซ้ายจัดไซรีซา ในศึกเลือกตั้งเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ผลการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่สุดของกรีซ นับตั้งสิ้นสุดยุคการปกครองของทหารในปี 1974 ได้คลายความกังวลต่อกรณีที่เอเธนส์อาจต้องออกจากยูโรโซนโดยทันที อย่างไรก็ตามจากนโยบายของว่าที่รัฐบาลใหม่ที่ต้องการทบทวนเงื่อนไขเงินกู้ ก็ส่งให้พวกเขายังต้องเผชิญหน้ากับเจ้าหนี้ต่างชาติอยู่

แม้ให้คำมั่นว่ากรีซจะเคารพต่อพันธสัญญานานาชาติ แต่นายซามาราส บอกว่าว่าควรมีการปรับแก้เงื่อนไขอันหนักหน่วงของข้อตกลงกู้ยืมเงินเพื่อเปิดทางให้ประชาชนชาวกรีซหลีกพ้นจากความจริงที่แสนทรมาน

ส่วนนายเวนิเซลอส ซึ่งเป็นผู้นำการเจรจาขอกู้ยืมเงินเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ในฐานะรัฐมนตรีคลังขณะนั้น ก็บอกเช่นกันว่าเงื่อนไขเงินกู้ "ไม่เอื้ออำนวย" และหลายเงื่อนไขก็เอาเปรียบกรีซ ทั้งนี้เขาว่าจะส่งทีมไปเจรจากับบรรดาเจ้าหนี้นานาชาติเพื่อขอทบทวนเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขข้อตกลงกู้ยืมเงิน

อย่างไรก็ตามเหล่าผู้นำของสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศว่าเป็นไปได้ที่จะขยายเส้นตายการปรับลดยอดขาดดุลให้กรีซ แต่จะไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหา และเตรียมระงับเงินช่วยเหลือก้อนต่อไปจนกว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะคลี่คลาย

ภายใต้เงื่อนไขปัจจุบัน กรีซ จำเป็นต้องปรับลดงบประมาณขาดดุลลง 11,000 ล้านยูโรภายในปี 2014 หรือราวร้อยละ 5 ของจีดีพี แม้พรรคการเมืองต่างๆของเอเธนส์ได้เรียกร้องขอผ่อนผันยืดเส้นตายออกไปสู่ปี 2016