ทูตยูเอ็นอึ้ง สงคราม “ซีเรีย” ทำเมืองร้าง เหลือประชากรแค่หยิบมือ

เอเจนซี - เหล่าทูตของสหประชาชาติคณะหนึ่ง เดินทางถึงเมืองฮัฟเฟห์ของซีเรียเมื่อวันพฤหัสบดี (14) แต่สิ่งที่พบกลับเป็นความรกร้างว่างเปล่า มีแต่ซากหักพังของตึก ร้านค้าถูกทิ้งขวาง ศพตายเกลื่อนกลาดถนนและเหลือชาวบ้านอาศัยอยู่แค่หยิบมือหนึ่งเท่านั้น

อย่างไรก็ตามคณะสังเกตการณ์ของสหประชาชาติ ต้องถอนตัวกลับมาในวันเดียวกัน เนื่องจากถูกเล่นงานโดยกลุ่มม็อบชาวบ้านที่โกรธกริ้ว แม้ต้องพยายามอย่างหนักกว่าจะเข้าถึงเมืองแห่งนี้ ท่ามกลางการปะทะอันดุเดือดต่อเนื่องหลายวันระหว่างทหารฝ่ายภักดีต่อประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดกับพวกกบฏ

ฝ่ายกบฏถอนตัวออกจากเมืองแห่งนี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ แต่สหประชาชาติและสหรัฐฯ เตือนว่าหากประชาชนยังคงพำนักอยู่ในเมืองแห่งนี้ต่อไป อาจถูกฆ่าอย่างเลือดเย็น ดังนั้นชาวบ้านเกือบทั้งหมดจึงอพยพหลบหนี

ช่างภาพของสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า พบเห็นกลุ่มควันลอยจากอาคารและรถยนต์หลายคันถูกไฟไหม้จนเหลือแต่ซาก แสดงให้เห็นว่าเมืองอัฟเฟห์แห่งนี้ถูกถล่มด้วยระเบิดอย่างหนักหน่วง ขณะเดียวกันก็พบเห็นชาวบ้านเพียงกลุ่มเล็กๆ โดยหนึ่งในนั้นบอกว่าประชากรอีกว่า 26,000 คน อพยพไปหมดแล้ว

สำนักงานหลักของพรรคบาธ พรรคฝ่ายรัฐบาลซีเรีย ที่ทำการไปรษณีย์และสำนักงานสาขาของกระทรวงเกษตรกรรมถูกเผาจนถล่มราบเป็นหน้ากลอง ศพถูกทิ้งไว้กลาดเกลื่อนถนนและร้านค้าถูกเปิดประตูทิ้งไว้อย่างนั้น ในสภาพที่กล่องผักและผลไม้ยังวางอยู่ข้างหน้า

การลุกฮือต่อต้านระบอบปกครองเผด็จการของอัสซาด เริ่มต้นอย่างสันติโดยกลุ่มเคลื่อนไหวสนับสนุนประชาธิปไตยเมื่อเดือนมีนาคม 2011 ทว่านับตั้งแต่นั้นมันก็เริ่มถอยห่างความสันติมากขึ้นเรื่อยๆ จากการปราบปรามนองเลือดกลุ่มกบฎติดอาวุธของกองกำลังนายอัสซาด

สหประชาชาติบอกว่ามีประชาชนมากกว่า 10,000 คน ถูกสังหารโดยกองกำลังรัฐบาล ขณะที่ซีเรียก็อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงราว 2,600 นายที่ถูกพวกก่อการร้ายอิสลามิสต์ที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติปลิดชีพ

ข้อตกลงหยุดยิงที่มีนายโคฟี อันนัน เป็นคนกลางล้มเหลวในการระงับเหตุรุนแรง และเวลานี้ชาติมหาอำนาจของโลกก็ยังคงมีความแตกแยกถึงแนวทางความเคลื่อนไหวในก้าวย่างต่อไป

รัสเซียและจีน สองชาติสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติใช้สิทธิ์วีโต ขัดขวางความพยายามของชาติมหาอำนาจตะวันตกในการแถลงประณามอัสซาดหรือแม้แต่เรียกร้องให้ปลดเขาลงจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม เหล่าทูตของชาติมหาอำนาจเหล่านี้ได้นัดประชุมฉุกเฉินที่เจนีวา ในวันที่ 30 มิถุนายน เพื่อหาทางออกในประเด็นซีเรียต่อไป