เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวแสดงความหวังว่า ไทยซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ของสหรัฐฯจะมีบทบาทผู้นำมากขึ้นในอาเซียน หลังผ่านพ้นมรสุมทางการเมืองเมื่อช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
คลินตัน ได้พบกับ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของไทย ก่อนที่จะมีการหารืออย่างเป็นทางการวันนี้(14) ว่าด้วยประเด็นสำคัญต่างๆ เช่น การค้า, สิทธิมนุษยชน และสภาพแวดล้อม
“เราสนับสนุนให้ไทยมีบทบาทผู้นำมากยิ่งขึ้นในภูมิภาค” คลินตัน แถลงต่อผู้สื่อข่าว
“เรารอที่จะประสานความร่วมมือกับไทย เพื่อบรรลุจุดประสงค์ร่วมกัน คือการสร้างสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในเอเชียแปซิฟิก”
นับตั้งแต่อดีตมา ไทยเปรียบเสมือนจักรกลสำคัญของนโยบายสหรัฐฯในเอเชีย โดยสยามในอดีตเคยมอบช้างเป็นของขวัญแก่ประธานาธิบดี อบราฮัม ลินคอล์น หลังสิ้นสุดสงครามกลางเมืองอเมริกันระหว่างปี 1861-1865
อย่างไรก็ดี สหรัฐฯยังมีความกังวลที่ไทยหมกมุ่นอยู่กับการเมืองภายในประเทศมากเป็นพิเศษในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ขณะที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา เริ่มหันมาให้ความสำคัญต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยกล่าวแสดงความยินดีที่สหรัฐฯจะเข้ามามีบทบาทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น โดยระบุว่า “เราเชื่อว่าสิ่งนี้จะช่วยส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคนี้”
เอเอฟพีระบุว่า ไทยจมดิ่งลงสู่วิกฤตการเมืองครั้งใหญ่ เมื่อผู้นำทหารที่ภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ทำการรัฐประหารโค่นล้มอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร มหาเศรษฐีโทรคมนาคมเจ้าของนโยบายประชานิยม อันนำมาซึ่งเหตุจลาจลในกรุงเทพมหานครเมื่อปี 2010 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไปกว่า 90 ราย
ระหว่างเดินทางเยือนไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว คลินตัน เรียกร้องให้ทุกฝ่ายสร้างความปรองดอง หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของอดีตนายกฯทักษิณ มีชัยในการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม และก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำหญิงคนแรกของไทย