เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดี อี มยอง-บัค แห่งเกาหลีใต้เรียกร้อง วันนี้ (6) โดยขอให้เกาหลีเหนือเรียนรู้บทเรียนอันล้ำค่าจากการปฏิรูปทางการเมืองที่เกิดขึ้นในพม่าในขณะนี้ และยุติช่วงเวลาหลายทศวรรษแห่งการโดดเดี่ยว
ท่าทีล่าสุดของผู้นำเกาหลีใต้ วัย 70 ปี ซึ่งครองอำนาจมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี ค.ศ.2008 รายนี้ มีขึ้นในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ เนื่องใน “วันแห่งความทรงจำ” ของเกาหลีใต้ เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในช่วงสงครามเกาหลี โดยประธานาธิบดี อี ได้เน้นย้ำถึงการปฏิรูปประชาธิปไตย ว่า เป็น “แนวทางที่มิอาจขัดขืนต้านทานได้”
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งเพิ่งเดินทางเยือนพม่าอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนที่แล้ว ถือเป็นผู้นำโสมขาวคนแรกที่เดินทางเยือนดินแดนที่เคยโดดเดี่ยวตัวเองแห่งนี้ ถัดจากการเยือนของอดีตประธานาธิบดี ชุน ดู-ฮวาน เมื่อปี ค.ศ.1983 ได้เปรียบเทียบเกาหลีเหนือกับพม่า ว่า เป็นประเทศที่มีความคล้ายคลึงกันในหลายด้าน ทั้งในเรื่องของการมีระบบเศรษฐกิจที่ไม่เสรีเหมือนกัน และต่างก็มีช่วงเวลาแห่งการโดดเดี่ยวจากประชาคมระหว่างประเทศเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดี อี ชี้ว่า ถึงแม้พม่าจะไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติมาเป็นเวลานาน แต่ในที่สุดพม่าก็พิสูจน์ตัวเองจนได้รับการต้อนรับกลับสู่เวทีระหว่างประเทศอีกครั้ง จากผลของความจริงใจของรัฐบาลพม่าในการปฏิรูปทางการเมือง และประชาธิปไตยจนนำไปสู่การมี “รัฐบาลกึ่งพลเรือน” ที่มาจากการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก รวมถึงการเปิดโอกาสให้ นางออง ซาน ซูจี วีรสตรีแห่งประชาธิปไตยของพม่า ได้กลับสู่เวทีการเมือง จนได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกรัฐสภา
“กระแสลมแห่งเสรีภาพและการปฏิรูป ซึ่งได้พัดผ่านทั่วภูมิภาคแอฟริกาเหนือ ได้มาถึงทวีปเอเชียแล้ว และถือเป็นสิ่งที่ไม่มีผู้ใดจะสามารถต้านทานขัดขืนได้ และผมได้ร้องขอให้ประธานาธิบดี เต็ง เส่ง ของพม่า ช่วยถ่ายทอดแบบอย่างของการเปิดตัวเข้าสู่ยุคใหม่ไปยังเกาหลีเหนือด้วย เพราะเกาหลีเหนือและพม่ามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน” ผู้นำเกาหลีใต้กล่าว
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี ตกอยู่ในภาวะเย็นชา นับตั้งแต่ที่รัฐบาลโซล กล่าวหารัฐบาลเปียงยาง ว่า อยู่เบื้องหลังการยิงตอร์ปิโดใส่เรือรบเกาหลีใต้ เมื่อเดือนมีนาคมปี ค.ศ.2010 เป็นเหตุให้ลูกเรือโสมขาวเสียชีวิต 46 คน ซึ่งทางเกาหลีเหนือปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวแต่ยังคงเดินหน้าแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน เกาหลีเหนือได้ระดมยิงปืนใหญ่ใส่เกาะแห่งหนึ่งใกล้รอยต่อพรมแดนทั้งสองประเทศเป็นเหตุให้มีชาวเกาหลีใต้เสียชีวิตไปอีก 4 ราย
และถึงแม้จะมีการเปลี่ยนผ่านในเกาหลีเหนือ หลังการถึงแก่อสัญกรรมของ คิม จอง-อิล เมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้บุตรชายของเขา คือ คิม จอง อึน ได้ก้าวขึ้นครองอำนาจสืบแทน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ยังคงไม่ดีขึ้น