เอเอฟพี/ASTV ผู้จัดการ - แหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ด้านข่าวกรองรายหนึ่งเผยวันนี้ (1) ว่า ทางการเกาหลีใต้จับกุมตัวสายลับหญิงของเกาหลีเหนือรายหนึ่งที่แฝงตัวเข้าประเทศมาในฐานะผู้ลี้ภัย ขณะที่ “จุงอัง อิลโบ” หนังสือพิมพ์รายวันยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ระบุ ตัวตนของสายลับหญิงรายนี้ถูกเปิดโปงในระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบคนเข้าเมืองตามปกติ
รายงานของจุงอัง อิลโบ ระบุว่า สตรีที่ถูกควบคุมตัวในครั้งนี้มีชื่อว่า อี คยอง-เอ วัย 46 ปี ซึ่งเป็นสมาชิกของศูนย์บัญชาการข่าวกรองทางทหารของเกาหลีเหนือและเดินทางเข้าเกาหลีใต้ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วโดยเดินทางผ่านมาทางสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทย นอกจากนั้น ยังมีข้อมูลว่าเธอตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงและฟอกเงินสกุลหยวนของจีนมูลค่าสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 31.8 ล้านบาท) ระหว่างที่เธออยู่ในแดนมังกร
ขณะเดียวกันมีข้อมูลว่า สายลับอียังมีส่วนพัวพันกับการล่อลวงอดีตผู้ลี้ภัยเชื้อสายเกาหลีรายหนึ่ง ซึ่งใช้ชื่อว่า “ปาร์ค” และถือสัญชาติอเมริกัน ให้เดินทางมายังจีน เพื่อฉวยโอกาสล้วงความลับ เนื่องจากเชื่อว่าเขามีความเชื่อมโยงกับสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ)
ทั้งนี้ ในทางเทคนิคยังถือว่าเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ยังคงอยู่ในสถานะคู่สงครามระหว่างกัน เนื่องจากการสู้รบในสงครามเกาหลีระหว่างปี ค.ศ. 1950-1953 นั้นยุติลงด้วยสัญญาสงบศึกชั่วคราวเท่านั้น มิได้มีการทำสนธิสัญญาสันติภาพถาวรระหว่างสองเกาหลีแต่อย่างใด และตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทางการเกาหลีใต้สามารถจับกุมสายลับของเกาหลีเหนือได้บ่อยครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่สายลับโสมแดงเหล่านี้ จะแฝงตัวเข้าสู่เกาหลีใต้ในฐานะผู้ลี้ภัย ขณะที่ข้อมูลของเกาหลีใต้ระบุว่า นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1948 เป็นต้นมา มีการจับกุมสายลับเกาหลีเหนือได้มากกว่า 4,500 คน
รายงานของจุงอัง อิลโบ ระบุว่า สตรีที่ถูกควบคุมตัวในครั้งนี้มีชื่อว่า อี คยอง-เอ วัย 46 ปี ซึ่งเป็นสมาชิกของศูนย์บัญชาการข่าวกรองทางทหารของเกาหลีเหนือและเดินทางเข้าเกาหลีใต้ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วโดยเดินทางผ่านมาทางสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทย นอกจากนั้น ยังมีข้อมูลว่าเธอตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงและฟอกเงินสกุลหยวนของจีนมูลค่าสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 31.8 ล้านบาท) ระหว่างที่เธออยู่ในแดนมังกร
ขณะเดียวกันมีข้อมูลว่า สายลับอียังมีส่วนพัวพันกับการล่อลวงอดีตผู้ลี้ภัยเชื้อสายเกาหลีรายหนึ่ง ซึ่งใช้ชื่อว่า “ปาร์ค” และถือสัญชาติอเมริกัน ให้เดินทางมายังจีน เพื่อฉวยโอกาสล้วงความลับ เนื่องจากเชื่อว่าเขามีความเชื่อมโยงกับสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ)
ทั้งนี้ ในทางเทคนิคยังถือว่าเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ยังคงอยู่ในสถานะคู่สงครามระหว่างกัน เนื่องจากการสู้รบในสงครามเกาหลีระหว่างปี ค.ศ. 1950-1953 นั้นยุติลงด้วยสัญญาสงบศึกชั่วคราวเท่านั้น มิได้มีการทำสนธิสัญญาสันติภาพถาวรระหว่างสองเกาหลีแต่อย่างใด และตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทางการเกาหลีใต้สามารถจับกุมสายลับของเกาหลีเหนือได้บ่อยครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่สายลับโสมแดงเหล่านี้ จะแฝงตัวเข้าสู่เกาหลีใต้ในฐานะผู้ลี้ภัย ขณะที่ข้อมูลของเกาหลีใต้ระบุว่า นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1948 เป็นต้นมา มีการจับกุมสายลับเกาหลีเหนือได้มากกว่า 4,500 คน