มะกันครองแชมป์ผู้ผลิตไฟฟ้าจากความร้อนใต้ดินสูงสุดในโลก ปินส์-อิเหนาติดโผด้วย

เอเยนซี/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลสำรวจชี้ สหรัฐฯ ครองแชมป์ประเทศผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนใต้พื้นพิภพมากที่สุดในโลก ขณะที่ 2 ประเทศจากสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) คือ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ติดโผในอันดับที่ 2 และ 3

รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลจากสมาคมพลังงานความร้อนใต้พื้นพิภพ (จีอีเอ) ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ระบุว่า ภาพรวมของตลาดพลังงานจากความร้อนใต้พิภพทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยที่สหรัฐฯ ยังครองสถานะประเทศผู้ผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานประเภทนี้รายใหญ่ที่สุดของโลกต่อไปด้วยกำลังการผลิตราว 3,187 เมกะวัตต์ คิดเป็นร้อยละ 28.4 ของกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานความร้อนใต้พิภพทั่วโลก

ข้อมูลของจีอีเอระบุว่า อันดับที่ 2 และ 3 รองจากสหรัฐฯ คือ 2 ประเทศจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้แก่ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ที่มีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนใต้พื้นโลก ที่ 1,972 และ 1,197 เมกะวัตต์ตามลำดับ ขณะที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เป็นดินแดนที่มีแหล่งพลังงานประเภทนี้เป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่มีการพัฒนาในด้านนี้เท่าที่ควร และในทางกลับกัน จีนยังคงครองแชมป์ประเทศที่มีอัตราการบริโภคไฟฟ้าจากพลังงานชนิดนี้สูงที่สุดในโลก จากการเร่งพัฒนาด้านอุตสาหกรรมอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ประเทศที่ถูกระบุว่าเป็น “ม้ามืด” ที่น่าจับตามองมากที่สุดคือ เคนยา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของทวีปแอฟริกา ที่ล่าสุดสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนประเภทนี้ได้ถึง 202 เมกะวัตต์

โดยสาเหตุหลักที่เคนยามีการพัฒนาแหล่งพลังงานประเภทนี้อย่างก้าวกระโดด ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแรงกระตุ้นจากจำนวนประชากรของภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก ที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ทางการเคนยาต้องเร่งสำรวจและพัฒนาแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพแห่งใหม่ๆ ไม่ต่ำกว่า 14 แหล่งให้ทันกับความต้องการในภูมิภาค