รอยเตอร์/เอเอฟพี/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ แห่งญี่ปุ่น ประกาศปรับคณะรัฐมนตรีในวันนี้ (4) ตามความคาดหมายของสื่อมวลชนในช่วงก่อนหน้านี้ ถือเป็นความพยายามของผู้นำแดนปลาดิบที่กำลังต้องการเสียงสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้าน ในการผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มอีกเท่าตัว
รายงานข่าวระบุว่า นายกรัฐมนตรีโนดะ วัย 55 ปีแห่งพรรคเดโมเครติก ปาร์ตี้ ออฟ เจแปน (ดีพีเจ) ที่ก้าวขึ้นมาครองอำนาจในฐานะผู้นำรัฐบาลญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว ตัดสินใจปรับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีถึง 5 กระทรวงในคราวเดียว คือ กระทรวงกลาโหม, กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมง, กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน คมนาคมและการท่องเที่ยว, รวมถึงกระทรวงปฏิรูปกิจการไปรษณีย์และการเงิน
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นให้เหตุผลหลักในการตัดสินใจปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ว่า ต้องการปรับเอารัฐมนตรีที่ถูกมองว่ามีผลงาน “ไม่เข้าตา” ออก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ โดยหนึ่งในผู้ที่ถูกปรับออกมีทั้ง นาโอกิ ทานากะ รัฐมนตรีกลาโหม รวมถึง ทาเคชิ มาเอดะ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบงานด้านกิจการคมนาคม ซึ่งเป็น 2 รัฐมนตรีที่ถูกยื่นตรวจสอบจากสมาชิกฝ่ายค้านเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
สำหรับผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่นั้นคือ ซาโตชิ โมริโมโตะ วัย 71 ปี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองระหว่างประเทศและความมั่นคงจากมหาวิทยาลัยทากุโชกุ รวมถึง ยูจิโระ ฮาตะ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาทำหน้าที่รัฐมนตรีคนใหม่ของกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน คมนาคม และการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า แท้จริงแล้วการปรับคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นคราวนี้ ถือเป็นความพยายามของโนดะและแกนนำพรรคดีพีเจที่ต้องการโน้มน้าวให้พรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุด คือ พรรคลิเบอรัล เดโมเครติก ปาร์ตี้ (แอลดีพี) หันมาสนับสนุนให้ร่างกฎหมายด้านภาษีฉบับใหม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา ก่อนปิดสมัยประชุมในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ เนื่องจากหากปราศจากความร่วมมือของพรรคแอลดีพีแล้ว ร่างกฎหมายดังกล่าวที่พรรคดีพีเจเป็นผู้ริเริ่ม อาจถูกคว่ำกลางสภา จนสั่นคลอนความน่าเชื่อถือของรัฐบาล
