รอยเตอร์/เอเอฟพี/ASTV ผู้จัดการ - ผู้ประท้วงชาวอียิปต์ที่โกรธแค้นจำนวนหลายพันคน ต่างออกมารวมตัวกันตามท้องถนนสายสำคัญทั่วประเทศเพื่อแสดงความไม่พอใจ ภายหลังศาลอียิปต์มีคำพิพากษาให้อดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัคและฮาบิบ อัล อัดลี อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยรับโทษจำคุกตลอดชีวิต จากความผิดกรณีสังหารผู้ชุมนุมประท้วงกว่า 850 รายระหว่างเหตุจลาจลโค่นล้มระบบมูบารัคเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง 6 รายที่มีส่วนพัวพันกับเหตุการณ์นองเลือดดังกล่าวกลับถูกตัดสินว่าไม่มีความผิด
นอกจากนั้น ข้อหาคอร์รัปชันของอาลา และกามาล บุตรชาย 2 คนของมูบารัคยังถูกยกฟ้อง เนื่องจากศาลให้เหตุผลว่าคดีหมดอายุความไปแล้ว รวมถึงการที่มูบารัคถูกตัดสินให้พ้นความผิด หนึ่งในจำนวนข้อหาที่เกี่ยวกับการทุจริตด้วย ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่ายว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่มูบารัคและอัดลี อาจพ้นความผิดในชั้นศาลอุทธรณ์ได้
คำตัดสินของศาลก่อให้เกิดความไม่พอใจ และปลุกกระแสแห่งความโกรธแค้นไปทั่วอียิปต์ภายในเวลาอันรวดเร็ว และเพียงไม่นานหลังศาลอ่านคำพิพากษา ได้เกิดเหตุต่อสู้ชุลมุนระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุน และฝ่ายต่อต้านมูบารัค บริเวณด้านนอกศาล โดยมีเสียงตะโกนประท้วงดังเข้าไปถึงภายในห้องพิจารณาคดี จนตำรวจต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์
ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ประท้วงซึ่งส่วนใหญ่มีความเห็นว่า อดีตประธานาธิบดีมูบารัคและผู้เกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่ประชาชนสมควรได้รับโทษประหารชีวิต ต่างพากันออกมาเดินขบวนประท้วงทั้งในกรุงไคโร เมืองหลวงนครอเล็กซานเดรีย และเมืองสำคัญทั่วประเทศ ท่ามกลางกระแสข่าวที่ระบุว่า องค์กรเคลื่อนไหวด้านการเมืองของชาวมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดอย่างกลุ่มภราดรภาพมุสลิม (Muslim Brotherhood) เรียกร้องให้ประชาชนออกมาร่วมประท้วงครั้งใหญ่ เช่นเดียวกับกลุ่มเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตย “6 เมษายน” ที่ประกาศจะจัดการประท้วงเช่นเดียวกัน
ล่าสุดมีรายงานว่า วันนี้ (3) วัยรุ่นชาวอียิปต์จำนวนหลายสิบคนได้บุกเข้าปล้นและทำลายสำนักงานหาเสียงในเมืองฟายูม ซิตี ของอาเหม็ด ชาฟิค อดีตนายกรัฐมนตรีอียิปต์คนสุดท้ายในยุคที่มูบารัคครองอำนาจ ถือเป็นเหตุร้ายที่เกิดกับสำนักงานของชาฟิคเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่สำนักงานที่เขาใช้เป็นฐานบัญชาการสำหรับการลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในกรุงไคโร เพิ่งถูกวางเพลิงจนได้รับความเสียหายไปเมื่อ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา