เอเอฟพี - มูลค่าการค้ากระสุนปืนทั่วโลกพุ่งเกิน 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าการค้าอาวุธปืนเสียอีก องค์กรบรรเทาทุกข์ ออกซ์แฟม เผยวานนี้ (30)
รายงานซึ่งเผยแพร่ก่อนที่การเจรจาสนธิสัญญาว่าด้วยการซื้อขายอาวุธจะเริ่มขึ้นที่นครนิวยอร์กประเมินว่า ทุกปีจะมีการผลิตกระสุนเพิ่มถึง 12,000 ล้านนัด ซึ่งมากพอที่จะฆ่าผู้หญิง ผู้ชาย และเด็กๆ ทั้งหมดบนโลกได้ถึง 2 ครั้ง
มูลค่าการค้ากระสุนสำหรับอาวุธปืนขนาดเล็กเพิ่มสูงถึง 4,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ขณะที่การค้าปืนและอาวุธเบาอื่นๆ ยังมีมูลค่าเพียง 2,680 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น รายงานซึ่งใช้ชื่อว่า “Stop a Bullet, Stop a War” เผย
ออกซ์แฟมชี้ว่า ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่ประเทศที่แจ้งรายงานการส่งออกกระสุนปืน และแทบไม่มีการตรวจสอบอย่างจริงจังจากหน่วยงานภาครัฐ
นักวิจัยของออกซ์แฟมพบว่า ช่องโหว่ในด้านข้อมูลที่สำคัญคือ การส่งกระสุนปืนไปยังประเทศที่เกิดสงครามโดยไม่มีบันทึกหลักฐาน เช่น โซมาเลีย และอัฟกานิสถาน ซึ่งกระสุนจำนวนมากมักตกไปอยู่ในมือกลุ่มติดอาวุธจนเป็นสาเหตุให้สงครามยืดเยื้อ
จากทั้งหมด 34 ประเทศที่ส่งรายงานการส่งออกอาวุธยุทธภัณฑ์เมื่อปี 2006 มีเพียง 28 ประเทศเท่านั้นที่แจ้งรายงานการส่งออกกระสุนปืน ในจำนวนนั้นได้แก่ อังกฤษ, ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ
สหรัฐฯ, ซีเรีย, อียิปต์ และอีกบางประเทศไม่เห็นด้วยที่กฎเกณฑ์ว่าด้วยการส่งออกกระสุนปืนจะถูกบรรจุลงในสนธิสัญญาว่าด้วยการซื้อขายอาวุธฉบับใหม่ที่ยังอยู่ระหว่างเจรจา อย่างไรก็ตาม ออกซ์แฟมเห็นว่า การค้ากระสุนปืนจำเป็นต้องถูกกล่าวถึงในสนธิสัญญาฉบับใหม่ด้วย
“ปืนจะไร้ความหมายเมื่อปราศจากกระสุน เพราะกระสุนคือสิ่งที่ทำให้ปืนกลายเป็นอาวุธร้ายแรง” แอนนา แมคโดนัลด์ หัวหน้าโครงการควบคุมอาวุธของออกซ์แฟม กล่าว
“มีความจำเป็นที่สนธิสัญญาใหม่จะต้องกล่าวถึงการซื้อขายกระสุนปืน และกำหนดระเบียบว่าด้วยการส่งออกให้รัดกุมยิ่งขึ้น”
“ทุกวันนี้ยังไม่มีกฎหมายควบคุมการส่งออกกระสุนปืนที่เป็นสากล ไม่มีระบบรายงานซึ่งจะช่วยให้เราทราบว่ากระสุนนับหมื่นล้านนัดนั้นไปตกอยู่ที่ไหนบ้าง นี่คือข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข”