โอบามาเปลี่ยนท่าทีหนุนแต่งงานเกย์ ส่งผลอเมริกันชนคัดค้านน้อยลง

รอยเตอร์ - การประกาศสนับสนุนการแต่งงานชาวเกย์ของประธานาธิบดีบารัค โอบามานั้นส่งผลให้ชาวอเมริกันบางคน โดยเฉพาะกลุ่มคนผิวสี และคนเชื้อสายสเปน พิจารณาข้อคัดค้านไม่ให้คนรักร่วมเพศแต่งงานกันใหม่ ผลวิเคราะห์โพลออนไลน์ของรอยเตอร์/อิปซอสเผย

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม โอบามากลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรก ซึ่งเชื่อว่าผู้ที่รักคนเพศเดียวกันควรได้รับการยอมรับให้แต่งงานกันได้ โดยได้รับการยกย่องจากพรรคเดโมแครต กลุ่มสิทธิชาวเกย์ และอื่นๆ ว่าเป็นมาตรฐานสำคัญของสิทธิพลเรือน ขณะที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนักเคลื่อนไหวพรรครีพับลิกัน และผู้นำทางศาสนา

ผลสำรวจความเห็นออนไลน์ดังกล่าวพบว่า ชาวแอฟริกัน-อเมริกันโดยเฉพาะ มีท่าทีคัดค้านการแต่งงานชาวเกย์น้อยลงกว่าที่เคย หลังการประกาศสนับสนุนของโอบามา โดยก่อนวันที่ 9 พ.ค.นั้น 34% ของชาวผิวสีไม่เห็นด้วย แต่หลังจากนั้นผู้ที่ต่อต้านก็เหลือเพียง 23%

โพลนี้ยังถามผู้ร่วมแสดงความเห็นว่า พวกเขาคัดค้านการแต่งงานชาวเกย์หรือไม่ สนับสนุนสหภาพคนรักร่วมเพศหรือไม่ และสนับสนุนการแต่งงานชาวเกย์ หรือไม่แน่ใจ ซึ่งผลสำรวจระบุว่า ตัวเลขคนคัดค้านลดลง ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาหันไปให้การสนับสนุน

การสนับสนุนสหภาพคนรักร่วมเพศโดยชาวแอฟริกัน-อเมริกันเพิ่มขึ้น 9% อยู่ที่ 28% หลังโอบามาประกาศ แต่ในประเด็นการสนับสนุนการแต่งงานชาวเกย์ลดลง 31% อยู่ที่ 29% และเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ยังไม่แน่ใจก็เพิ่มขึ้น 5%ไปอยู่ที่ 21% ด้วย

จูเลีย คลาร์ก ผู้ทำการสำรวจของอิปซอสกล่าวว่า คนผิวสีเป็นฐานเสียงสำคัญสำหรับโอบามาในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนนี้ และการเปลี่ยนแปลงทัศนคติดังกล่าวถือเป็นข่าวดีสำหรับเขา ซึ่งหากเขาสามารถเป็นผู้นำทางความคิดได้เช่นนี้ เขาก็จะสามารถบริหารประเทศได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในกรณีที่ชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2

ด้านกลุ่มคนเชื้อสายสเปนให้การสนับสนุนการแต่งงานชาวเกย์เพิ่มขึ้นจาก 46% เป็น 51% หลังโอบามาประกาศจุดยืนใหม่นี้ ส่วนผู้ที่คัดค้านก็เปลี่ยนแปลงไปในทางลบ โดยลดลงเหลือ 20% จาก 23%

ขณะที่กลุ่มชาวอเมริกันผิวขาวมีทัศนคติเปลี่ยนแปลงไปน้อยที่สุด โดยคนที่คัดค้านประเด็นนี้ลดลง 2% เหลือ 25% และผู้สนับสนุนเพิ่มขึ้น 2% จาก 39% เป็น 41% ผลการวิเคราะห์ระบุ

สำหรับผลสำรวจโดยรวมของผู้ตอบแบบสอบถามนั้นพบว่า ผู้คัดค้านการแต่งงานของคนรักร่วมเพศมีเปอร์เซ็นต์ลดลงเหลือ 24% จาก 27% ก่อนหน้าที่โอบามาจะประกาศเปลี่ยนท่าที ส่วนผู้สนับสนุนก็เพิ่มขึ้นจาก 39% เป็น 41% ด้วย