เอเจนซีส์ - “โอบามา” กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ประกาศสนับสนุนการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน ความเคลื่อนไหวที่สร้างความตะลึงงันไปทั่วแดนลุงแซมคราวนี้ เห็นกันว่าจะกระทบอย่างรุนแรงต่อผลการเลือกตั้งผู้นำอเมริกันในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ นักวิเคราะห์ชี้การเปิดเผยจุดยืนนี้อาจโดนใจฐานเสียงดั้งเดิม แต่ขณะเดียวกันก็อาจทำให้ความพยายามในการโน้มน้าวผู้มีสิทธิออกเสียงที่ยังไม่ปักใจเลือกใครกลายเป็นงานที่ยากลำบากยิ่งขึ้น
“ผมเพิ่งได้ข้อสรุปสำหรับตัวเอง เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผมที่จะต้องเดินหน้าและออกมายืนยันว่า ผมคิดว่าคนเพศเดียวกันควรแต่งงานกันได้” ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้สัมภาษณ์ข่าวโทรทัศน์เอบีซี นิวส์ เมื่อวันพุธ (9)
อย่างไรก็ตาม โอบามาสำทับว่า การตัดสินใจว่าการแต่งงานระหว่างคนเพศเดียวกันเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละมลรัฐ เขายังพูดถึงการที่เขาและภรรยา มิเชล มีความเห็นเช่นนี้โดยที่สอดคล้องกับความศรัทธาในคริสต์ศาสนาของพวกตนด้วย
“เราทั้งคู่ต่างก็เป็นชาวคริสต์ และเห็นได้ชัดว่าจุดยืนนี้ (ยอมรับให้คนเพศเดียวกันแต่งงานกันได้) อาจจะทำให้เราถูกพิจารณาว่ามีความเห็นผิดแผกแตกต่างกับความคิดเห็นของคนอื่นๆ” เขากล่าว “แต่มันก็มีหลักคำสอนอันสำคัญที่ระบุว่า -- ควรปฏิบัติต่อผู้อื่นแบบที่คุณต้องการได้รับการปฏิบัติ”
โอบามาซึ่งก่อนหน้านี้สนับสนุนการปกป้องสิทธิคนรักร่วมเพศอย่างแข็งขัน แต่ไม่ถึงขั้นสนับสนุนการแต่งงานของคนกลุ่มนี้ สำทับว่า ความคิดของเขาค่อยๆ เปลี่ยนไป หลังจากคุยกับลูกสาวทั้งสองคนคือ มาเลียและซาชา ที่มีเพื่อนหลายคนมีผู้ปกครอง 2 ฝ่ายเป็นคนเพศเดียวกัน รวมถึงการครุ่นคิดถึงทหารที่มีความสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน และต้องออกไปปฏิบัติภารกิจในสนามรบเพื่อปกป้องประชาชนและประเทศในสภาพจิตใจที่ถูกกดดัน
ความเคลื่อนไหวคราวนี้ทำให้โอบามากลายเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนแรกที่แสดงการสนับสนุนการแต่งงานของคนเพศเดียวกันอย่างเปิดเผย และจุดยืนนี้ได้รับการยกย่องจากสมาชิกพรรคเดโมแครต กลุ่มสนับสนุนสิทธิชาวเกย์ และกลุ่มสนับสนุนสิทธิพลเมืองอื่นๆ ในสหรัฐฯ
“นี่ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์สิทธิพลเมืองของอเมริกา” ไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนิวยอร์กที่ไม่สังกัดพรรค และเมืองของเขาอยู่ใน 1 ใน 6 มลรัฐที่อนุญาตการแต่งงานของคนเพศเดียวกันกล่าว
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ตกอยู่ภายใต้ความกดดันทางการเมืองเรื่องการแต่งงานของชาวรักร่วมเพศหลังจากรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการมีต เดอะ เพลซของเอ็นบีซีเมื่อวันอาทิตย์ (6) ว่าเขารับได้กับการแต่งงานระหว่างคนเพศเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์การเมืองชี้ว่า โอบามากำลังเข้าสู่บริเวณทุ่นระเบิดทางการเมือง เนื่องจากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงสำคัญบางกลุ่มในมลรัฐที่ไม่ใช่ฐานเสียงของพรรคใดๆ ซึ่งโอบามาหวังจะได้รับการสนับสนุนในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนนี้ เป็นกลุ่มที่ต่อต้านการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน
ก่อนหน้านี้ คือในวันอังคาร (8) นี้เอง ผู้มีสิทธิออกเสียงในนอร์ทแคโรไลนา มลรัฐที่โอบามาชนะเฉียดฉิวในการเลือกตั้งปี 2008 ได้โหวตรับรองการแก้ไขธรรมนูญของมลรัฐที่ ห้ามทั้ง การแต่งงาน (marriage) การอยู่ร่วมกันแบบมีข้อตกลงผูกพัน (civil union) และการอยู่กินกัน (domestic partnership) ระหว่างคนเพศเดียวกัน ด้วยคะแนน 61 ต่อ 39% หลังจากก่อนหน้านี้มี 30 รัฐรับรองการแก้ไขธรรมนูญมลรัฐในลักษณะนี้แล้ว
ด้านนักเคลื่อนไหวของรีพับลิกันและผู้นำคริสเตียนอนุรักษนิยม วิจารณ์จุดยืนของโอบามาว่า เป็นความเสี่ยงสำคัญทางการเมือง บางคนบอกว่า นี่อาจทำให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงที่ไม่นิยมชมชอบพรรคใดเป็นพิเศษและต่อต้านการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน ตัดสินใจสนับสนุนมิตต์ รอมนีย์ ว่าที่ตัวแทนพรรครีพับลิกันในการแข่งขันชิงทำเนียบขาววันที่ 6 พฤศจิกายนนี้
ตัวรอมนีย์นั้นกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เขาเชื่อมั่นว่า “การแต่งงานคือความสัมพันธ์ระหว่างชาย-หญิง” เท่านั้น ถึงแม้ ตนยังคงสนับสนุนสิทธิในการรักษาพยาลและสวัสดิการอื่นๆ ของชาวรักร่วมเพศ
กระนั้นมีสัญญาณว่า อเมริกันชนกำลังยอมรับการแต่งงานของคนเพศเดียวกันมากขึ้น แม้กลุ่มอนุรักษนิยมเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าในการโจมตีกลุ่มล็อบบี้สนับสนุนชาวเกย์ รวมทั้งผลักดันให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อห้ามการแต่งงานของคนเพศเดียวกันก็ตาม
ยกตัวอย่างเช่นในการสำรวจของแกลลัประหว่างวันที่ 3-6 เดือนนี้พบว่า ชาวอเมริกัน 50% สนับสนุนการแต่งงานของชาวรักร่วมเพศ แม้ยังมี 48% ระบุว่าไม่เห็นด้วยให้ยอมรับการกระทำเช่นนี้ว่าถูกต้องตามกฎหมาย
จูเลียน เอปสไตน์ นักกลยุทธ์ของเดโมแครต ยอมรับว่า แม้ผลสำรวจความคิดเห็นหลายสำนักบ่งชี้ว่า เกือบทุกภาคส่วนของประชาชนยอมรับการแต่งงานของคนเพศเดียวกันมากขึ้น แต่จุดยืนล่าสุดของโอบามาใช่ว่าปลอดความเสี่ยงทางการเมือง เนื่องจากรีพับลิกันจะหยิบยกมาเป็นประเด็นโจมตีอย่างแน่นอน
