xs
xsm
sm
md
lg

เจพีมอร์แกนเผยตัวเลขขาดทุน $2 พันล้าน กระทบหุ้น-เครดิต-ภาพลักษณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจพีมอร์แกน เชสแอนด์โค ธนาคารใหญ่แห่งหนึ่งของสหรัฐฯ
รอยเตอร์ - เจพีมอร์แกน เชสแอนด์โค ธนาคารใหญ่ของสหรัฐฯ เสียมูลค่าตลาด 15,000 ล้านดอลลาร์ และยังถูกหั่นเครดิ เรตติ้งลง 1 ขั้น ในวันศุกร์ (11) หลังธนาคารแห่งนี้สร้างความตกตะลึงด้วยการประกาศว่าขาดทุนถึง 2,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่เหล่าผู้ออกกฏหมาย และนักการเมืองต่างเรียกร้องให้มีการทบทวนอุตสาหกรรมการธนาคารเข้มงวดขึ้น

การขาดทุนของธนาคารที่ได้ชื่อว่าน่าเชื่อถือที่สุดแห่งหนึ่งของวอลล์สตรีท สร้างความอับอายให้แก่ เจมี ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกน ผู้บริหาร ซึ่งเคยได้รับคำชื่นชมจากการขับเคลื่อนธนาคารของเขาให้รอดพ้นจากวิกฤตการเงินในปี 2008 มาได้โดยไม่มีรายงานการขาดทุนแต่อย่างใด

ไดมอนเปิดเผยยอดขาดทุนด้านเทรดดิ้งอย่างน้อย 2,000 ล้านดอลลาร์ ผ่านการประชุมทางโทรศัพท์ โดยระบุว่ายอดการขาดทุนนี้อาจเพิ่มขึ้นได้อีก 1,000 ล้านดอลลาร์ทีเดียว พร้อมกันนี้ ยังยอมรับว่าการขาดทุนครั้งนี้มีส่วนเชื่อมโยงกับ บรูโน อิกซิล เครดิต เทรดเดอร์คนหนึ่งในอังกฤษ ที่มีสมญานามว่า “วาฬแห่งลอนดอน” ซึ่งมีข่าวว่าเขามีสถานะการลงทุนสูงผิดปกติ

อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่ายังไม่ชัดเจนว่าทางธนาคารได้ละเมิดกฎหมาย หรือระเบียบข้อบังคับใดๆ หรือไม่ แต่ทางบริษัทมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชี กฎหมาย ดูแลความเสี่ยง ที่ดีที่สุดรับผิดชอบกรณีนี้อยู่

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ได้เปิดการสอบสวนเบื้องต้นเกี่ยวกับการทำบัญชีของเจพีมอร์แกน และการเปิดเผยตัวเลขขาดทุนด้านเทรดดิ้งแล้ว

ขณะที่ ธนาคารกลางนิวยอร์กก็ทราบถึงปัญหาการขาดทุนครั้งใหญ่ของเจพีมอร์แกนด้วย และกำลังจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แหล่งข่าวเผย และยังระบุว่าในฐานะผู้กำกับดูแลหลักของเจพีมอร์แกน เฟดวางเป้าหมายที่จะทำให้แน่ใจว่าธนาคารต่างๆ มีเงินทุนมากเพียงพอรับมือกับความผิดพลาดเช่นเดียวกันนี้ ไม่ใช่ป้องกันปัญหา

ด้าน ฟิตช์ เรตติงส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ลดเครดิตธนาคารแห่งนี้ลง 1 ขั้น จาก AA- เหลือ A+ และยังให้แนวโน้มของธนาคาร ตลอดจนบริษัทย่อย เป็นติดลบ ส่วนสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ หรือเอสแอนด์พี สถาบันเครดิตเรตติ้งชั้นนำของโลกอีกแห่งก็ปรับลดมุมมองอนาคตของธนาคารแห่งนี้เป็นลบด้วย แต่ยืนยันเรตติ้งในปัจจุบันต่อไป

ฟิตช์ชี้ว่า ปริมาณการขาดทุนของเจพีมอร์แกนสามารถจัดการได้ แต่ระดับของการขาดทุนแสดงให้เห็นเป็นนัยว่า ธนาคารขาดสภาพคล่อง ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยง การดำเนินกิจการ และการกำกับดูแล ที่ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญต่อการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

นอกจากนี้ ฟิตช์ยังเตือนว่าเจพีมอร์แกนอาจถูกปรับลดเครดิตลงอีก ถ้ายังไม่สามารถควบคุมวิกฤตครั้งนี้ได้

ความขาดทุนมหาศาลครั้งนี้ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการบริหารงานของธนาคารใหญ่ๆ ขึ้นอีกครั้ง โดยริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานธนาคารกลางดัลลัส ออกมาแสดงความกังวลว่า ธนาคารระดับท็อป 5 ของสหรัฐฯ อาจยังมีการบริหารความเสี่ยงไม่ดีพอ

ความล้มเหลวดังกล่าวขยายไปทั่วภาคการธนาคาร โดยหุ้นของธนาคารชั้นนำบางแห่งของวอลล์สตรีทตกลงในวันศุกร์ โดยหุ้นซิตีกรุ๊ปร่วงไป 4.2% โกลแมนแซกส์ 3.9% และแบงก์ออฟอเมริกาหล่นไป 1.9%
กำลังโหลดความคิดเห็น