xs
xsm
sm
md
lg

บังกลาเทศตามล่าครูโหด ใช้เหล็กร้อนนาบขาลงโทษนักเรียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บีบีซี - ตำรวจบังกลาเทศกำลังตามล่าตัวครูของโรงเรียนสอนศาสนามุสลิมรายหนึ่ง หลังถูกกล่าวหาใช้แท่งเหล็กเผาไฟจนร้อนนาบลงไปบนขาของนักเรียนเพื่อลงโทษที่กรณีเด็กเหล่านี้ไม่ยอมสวดมนต์ตามกิจวัตรประจำวัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่ามีเด็กนักเรียนหญิง 14 คน อายุระหว่าง 8 ถึง 12 ปี มีบาดแผลไฟไหม้จากการลงโทษของครูรายดังกล่าว ทั้งนี้แม้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่หลังเรื่องนี้แดงขึ้นโรงเรียนดังกล่าวก็จำเป็นต้องปิดการเรียนการสอนชั่วคราว ขณะที่เรื่องราวอันโหดร้ายที่เหล่าเด็กหญิงต้องประสบก็กลายเป็นข่าวโด่งดังตามหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแม้ว่ารัฐบาลบังกลาเทศได้สั่งห้ามลงโทษทางร่างกายในสถาบันการศึกษาทุกแห่ง ซึ่งรวมไปถึงโรงเรียนสอนศาสนาหรือมาดราซาห์ ในปี 2010 “ฉันช็อกมากที่ได้เห็นรอยแผลไหม้ของลูกสาว” จูมูร์ อัคเตอร์ แม้ของนักเรียนรายหนึ่งที่ถูกทำโทษบอกกับบีบีซี

นักเรียนเหล่านี้เข้าเรียนภาษาอาหรับและเบงกาลี ณ สถาบันสอนศาสนาทาลิมุล อัลกุรอาน มาฮิลา ในกรุงธากา และรายงานข่าวระบุว่าเหตุครูทำโทษเด็กเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันอังคาร (1)

“มันเป็นวันเปิดเรียนวันแรกของโรงเรียนหลังจากวันหยุดยาว ครูของเราโกรธมากเมื่อทราบว่าเราไม่ได้สวดมนต์ตามกิจวัตรในช่วงวันหยุด” เด็กหญิงเฟอร์เดาซี อัคเธอร์ อายุ 8 ขวบเล่า “เธอใช้ลูกจ้างไปแท่งเหล็กไปเผาไฟ จากนั้นเธอก็กดมันลงกับขาของพวกเรา มันเจ็บปวดสุดจะทนเลย”

ตำรวจเผยว่าจากการสอบปากคำพยานพบว่าครูรายนี้ถามเด็กนักเรียนด้วยความเดือดดาลว่า “ทีนี้รู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดของไฟในนรกหรือยัง” พร้อมกับเตือนว่าหากยังไม่ยอมสวดมนต์อีก ก็จะต้องเจอการลงโทษแบบเดียวกันนี้

เหล่าเจ้าของธุรกิจเล็กๆ คนงานโรงงานสิ่งทอและชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงต่างรู้สึกช็อคต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่นายราเชด เค ชอฮิวรี นักเคลื่อนไหวรณรงค์ด้านให้การศึกษาประชาชน บอกว่า “นี่คือการละเมิดสิทธิมนุษยชนของเด็ก รัฐบาลกำลังพยายามหยุดยั้งความรุนแรงรูปแบบนี้ต่อเด็ก โดยเฉพาะตามสถานการศึกษาต่างๆ ทว่ามันไม่เกิดผลเลย”

ตำรวจเผยว่ากำลังสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามหลังได้รับคำร้องเรียนจากบรรดาผู้ปกครอง “เรารับคดีเอาผิดกับครูของสถาบันสอนศาสนา หลังได้รับร้องเรียนจากพ่อของเด็กหญิงรายหนึ่ง ครูคนดังกล่าวและสามีของเธออยู่ระหว่างหลบหนีซ่อนตัว เรากำลังค้นหาพวกเขา”

ด้านเหล่าผู้ปกครองบอกว่าพวกเขาไม่สู้เต็มใจที่จะส่งลูกหลานไปยังโรงเรียนแห่งนี้อีกแล้ว “หากมีโรงเรียนรัฐบาลในละแวกใกล้เคียง เราก็อยากส่งพวกเขาไปที่นั่น แต่นี่โรงเรียนรัฐบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดก็อยู่ห่างไกลมาก เราจึงจำเป็นต้องให้ลูกเข้าเรียนที่สถาบันแห่งนี้” ผู้ปกครองรายหนึ่งบอก
กำลังโหลดความคิดเห็น