เอเอฟพี - คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สั่งเพิ่มมาตรการแซงก์ชันเกาหลีเหนือจากการปล่อยจรวดที่ประสบความล้มเหลว พร้อมขู่ลงโทษซ้ำหากเปียงยางขืนทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ต่อ ด้านโสมแดงไม่ได้แสดงอาการยี่หระแต่อย่างใด อีกทั้งมีรายงานว่า เปียงยางประกาศไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่นานาชาติเข้าตรวจสอบโครงการนิวเคลียร์ของตน
ในการประชุมที่นิวยอร์กวันจันทร์ (16) คณะมนตรีความมั่นคงออกคำแถลงที่มีเนื้อหาให้เวลาคณะกรรมาธิการควบคุมการลงโทษ 2 สัปดาห์เพื่อเพิ่ม “นิติบุคคลและรายการ” ใหม่ๆ ลงในบัญชีรายการลงโทษที่ได้จัดทำขึ้นหลังเกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ในปี 2006 และ 2009 รวมทั้งทบทวนรายชื่อบุคคลและบริษัทเกาหลีเหนือที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการขีปนาวุธนำวิถีและนิวเคลียร ์ซึ่งสมควรถูกอายัดทรัพย์สินภายใต้มาตรการระหว่างประเทศ
ซูซาน ไรซ์ เอกอัครราชทูตอเมริกันประจำยูเอ็นและประธานคณะมนตรีประจำเดือนปัจจุบัน แจงว่า คณะกรรมาธิการควบคุมการลงโทษยังจะร่างบัญชีรายการ “เทคโนโลยีที่มีความอ่อนไหวว่าจะถูกแพร่กระจาย” ฉบับใหม่ ซึ่งจะห้ามถ่ายโอนให้แก่เกาหลีเหนือ หรือรับเอามาจากโสมแดง
คำแถลงของคณะมนตรีสำทับว่า การที่เกาหลีเหนือปล่อยจรวดเมื่อวันศุกร์ (13) ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จ โดยจรวดแตกเป็นเสี่ยงเหนือทะเลเหลืองหลังจากทะยานขึ้นไม่กี่นาที ถือเป็นการละเมิดมติที่ 1718 และ 1874 ของคณะมนตรีอย่างร้ายแรง และคณะมนตรีขอประณามการกระทำดังกล่าว
เปียงยางนั้นอ้างว่า การปล่อยจรวดคราวนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำดาวเทียมตรวจสอบสภาพอากาศขึ้นสู่วงโคจร แต่สหรัฐฯ และพันธมิตรเชื่อว่าเป็นความพยายามทดสอบยิงขีปนาวุธ
นอกจากนี้ คณะมนตรีเรียกร้องให้เกาหลีเหนือระงับการดำเนินการใหม่ๆ ที่ใช้ “เทคโนโลยีขีปนาวุธนำวิถี” ทั้งหมดเพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้
ก่อนหน้านี้ พวกนักวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กล่าวโดยอ้างภาพถ่ายดาวเทียมว่า โสมแดงยังมีการเตรียมการอยู่ที่เมืองปุงเกรี อันเป็นสถานที่พัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ในปี 2006 และ 2009 เรื่องนี้บ่งชี้ว่า เกาหลีเหนือกำลังจะทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ร็วๆ นี้ เช่นที่เคยเกิดขึ้นหลังการปล่อยจรวดใน 2 ปีดังกล่าว
รัฐบาลเกาหลีใต้ได้แสดงความยินดีต่อคำแถลงล่าสุดของคณะมนตรี และเรียกร้องให้เปียงยางยุติการยั่วยุที่อาจบ่อนทำลายสันติภาพและความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลีและเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ
เช่นเดียวกัน โตเกียวยกย่องความเคลื่อนไหวของคณะมนตรีโดยระบุว่า เกาหลีเหนือควรปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของยูเอ็น รวมทั้งไม่ยิงและไม่ทดสอบนิวเคลียร์หรือกระทำการยั่วยุใดๆ อีก
สำหรับสหรัฐฯ เมื่อถูกถามว่า จีนจะกดดันให้เกาหลีเหนือหลีกเลี่ยงการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ตอบว่า ทุกประเทศ รวมถึงจีน เห็นพ้องกันว่า หากยังดำเนินการยั่วยุอีก เกาหลีเหนือจะเผชิญการลงโทษหนักขึ้น
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเปียงยางไม่ได้หวั่นไหวต่อแรงกดดันทางทูต โดยสำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานจากโซลว่า เกาหลีเหนือตัดสินใจระงับการเจรจาเพื่ออนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบของทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) เข้าตรวจสอบการระงับกระบวนการเพิ่มความเข้มข้นของยูเรเนียมที่ยองบอน
รายงานชิ้นนี้อ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ผู้หนึ่ง และออกมาขณะที่เคิร์ต แคมป์เบลล์ ตัวแทนเจรจาของประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังอยู่ในกรุงโซล
ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงเดือนกุมภาพันธ์ อเมริกาให้สัญญาว่า จะส่งมอบอาหาร 240,000 ตัน แลกเปลี่ยนกับที่เกาหลีเหนือต้องระงับการเพิ่มความเข้มข้นของยูเรเนียม และยกเลิกการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ
หนังสือพิมพ์โยมิอุริ ชิมบุงของญี่ปุ่นรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวว่า เมื่อวอชิงตันประกาศยกเลิกข้อตกลงนี้แล้ว ก็หมายความว่าเกาหลีเหนือไม่รู้สึกว่าตนถูกผูกมัดภายใต้เงื่อนไขนี้ จึงมีแนวโน้มสูงที่เปียงยางจะทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง