เอเอฟพี - สุลต่านรัฐเกดะห์ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีองค์ที่ 14 แห่งมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ณ พระราชวังแห่งใหม่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ วันนี้ (11) และทรงขอให้ทุกฝ่ายช่วยสนับสนุนความเท่าเทียมของพลเมืองทุกเชื้อชาติศาสนา
สุลต่าน อับดุล ฮาลีม มูอัดซัม ชาห์ พระชนมายุ 84 พรรษา ทรงเป็นสุลต่านมาเลเซียพระองค์แรกในประวัติศาสตร์ ที่เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ถึง 2 ครั้งในพระชนม์ชีพ โดยทรงดำรงตำแหน่งพระราชาธิบดีมาแล้วครั้งหนึ่ง ในทศวรรษที่ 1970
สุลต่าน อับดุล ฮาลีม ทรงสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ และทรงโปรดกีฬาฟุตบอล, โปโล, กอล์ฟ และดนตรีแจ๊ซ
สมเด็จพระราชาธิบดี หรือ “ยัง ดี-เปอร์ตวน อากง” ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้ได้รับเลือกให้เป็นเจ้า” ทรงเข้ารับตำแหน่งพระประมุขแห่งมาเลเซียอย่างเป็นทางการในวันนี้ (11) โดยมีการถ่ายทอดสดพระราชพิธีอันตระการตาภายในพระราชวังแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขากลางกรุงกัวลาลัมเปอร์
นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก เป็นผู้อ่านแถลงการณ์ประกาศให้ สุลต่าน อับดุล ฮาลีม ทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระราชาธิบดีองค์ที่ 14 โดยมีสุลต่านแห่งรัฐต่างๆ ตลอดจนบรรดารัฐมนตรีและทูตานุทูต ร่วมเป็นสักขีพยานในพระราชพิธีอันทรงเกียรตินี้
สมเด็จพระราชาธิบดีซึ่งทรงฉลองพระองค์ขนสัตว์สีดำและสีเหลือง ปักด้วยดิ้นทองอย่างประณีตงดงาม ทรงจุมพิตพระคัมภีร์อัลกุรอานและพระแสงดาบยาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งพระราชอำนาจ จากนั้นทรงมีพระปฐมบรมราชโองการจะปกครองมาเลเซียด้วยความเป็นธรรม, เชิดชูหลักศาสนาอิสลาม และแนะแนวการทำงานของรัฐบาลให้เป็นไปตามครรลองที่เหมาะสม
พระองค์ยังตรัสชมการบริหารบ้านเมืองโดยนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก และทรงย้ำเตือนว่า รัฐบาลมีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ชาวมาเลเซียทุกกลุ่ม
“ชาวมาเลเซียทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ข้าพเจ้าหวังว่า จะได้เห็นประชาชนได้รับประโยชน์จากความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมืองโดยถ้วนหน้า”
แม้กษัตริย์มาเลเซียจะทรงมีบทบาทในเชิงพิธีการเป็นหลัก แต่ก็ทรงเป็นที่เคารพอย่างสูงในหมู่ประชาชน โดยตำแหน่งสุลต่านแห่งรัฐต่างๆ นั้นสืบทอดเชื้อสายกันมานานหลายร้อยปี ตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 เป็นต้นมา