เอเจนซีส์ - เกาหลีเหนือแถลงในวันอังคาร (10) ว่ากำลังดำเนินการขั้นตอนสุดท้ายและพร้อมเดินหน้าแผนการยิงจรวดพิสัยไกลตามกำหนด ถึงแม้มีเสียงประณามจากนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ, เกาหลีใต้, หรือแม้กระทั่งรัสเซีย ซึ่งเคยเป็นผู้สนับสนุนโสมแดง ทางด้านจีน พันธมิตรสำคัญหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ ออกมาเรียกร้องให้ตั้งสติอยู่ในความสงบ
ในขณะที่สายการบินและสายการเดินเรือต่างๆ ในภูมิภาคแถบนี้ต่างกำลังอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมเฝ้าระวัง และญี่ปุ่นก็นำเอาระบบต่อต้านขีปนาวุธออกมาตั้งจังก้า เกาหลีเหนือยังคงออกมาแถลงว่า กำลังดำเนินการประกอบดาวเทียมเข้ากับตัวจรวด
“เรากำลังคาดหมายว่าการประกอบจะเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ภายในวันนี้” ริว กุมชอล รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาด้านอวกาศของคณะกรรมกลางด้านอวกาศแห่งเกาหลี แถลงจากกรุงเปียงยาง
ทันทีที่นำดาวเทียมประกอบเข้ากับท่อนที่ 3 ซึ่งเป็นท่อนสุดท้ายของจรวดแล้ว จรวด “อึนฮา-3” ที่มีความสูง 30 เมตรลูกนี้ ก็เหลือเพียงการเติมเชื้อเพลิงเท่านั้น ก่อนพรักพร้อมทะยานขึ้นจากฐานยิงซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลเหลือง ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
โสมแดงระบุว่า การยิงจรวดคราวนี้ก็เพื่อส่งดาวเทียม “กวางเมียงซอง-3” ที่มีน้ำหนักราว 100 กิโลกรัม ให้ขึ้นสู่วงโคจร ทำการรวบรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ ภายในดินแดนเกาหลีเหนือ
โดยที่กำหนดจะยิงจรวดในช่วงระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันเกิดครบรอบปีที่ 100 ของ คิม อิลซุง ผู้ก่อตั้งประเทศและก็เป็นปู่ของ คิม จองอึน ผู้นำโสมแดงคนปัจจุบันที่เพิ่งก้าวขึ้นครองอำนาจภายหลังการถึงแก่อสัญกรรมของ คิม จองอิล บิดาของเขาในช่วงสิ้นปีที่แล้ว
สหรัฐฯ และชาติเพื่อนบ้านของเกาหลีเหนือ ต่างประณามว่า การยิงจรวดของโสมแดงคราวนี้ เป็นการแอบแฝงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล ซึ่งเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตลอดจนเป็นการทำลายข้อตกลงที่เปียงยางเพิ่งทำไว้กับวอชิงตัน ในเรื่องที่จะระงับการทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิเวคลียร์ เพื่อแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือทางด้านอาหาร
ทว่า ริวยังคงยืนยันในวันอังคารว่า “การปล่อยดาวเทียมกวางเมียงซอง-3 คือของขวัญจากประชาชนของเราแด่ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของเรา สหายคิม อิลซุง ในวาระวันเกิดปีที่ 100 ของท่าน ดังนั้น นี่จึงไม่อาจจะเป็นการทดสอบขีปนาวุธไปได้” นอกจากนั้นเขายังระบุว่า เป็นสิทธิของทุกๆ ชาติในโลกที่จะมีดาวเทียมของตนเอง และเกาหลีเหนือไม่ยอมรับญัตติใดๆ ก็ตามของยูเอ็นที่ล่วงละเมิดอำนาจอธิปไตยของตน
“ดาวเทียมของเราหนัก 100 กิโลกรัม ถ้านี่เป็นอาวุธ น้ำหนักเพียงแค่นี้ย่อมไม่ทำให้เกิดประสิทธิภาพอะไรหรอก ... นอกจากนี้ ฐานปล่อยจรวดของเรายังสร้างขึ้นบนพื้นที่เปิดโล่งอีกด้วย” เขากล่าวย้ำ
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า อเล็กซานเดอร์ ลูคาเซวิช โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ออกมาแถลงในวันอังคารว่า รัสเซียถือว่าการที่เกาหลีเหนือประกาศจะส่งดาวเทียมคราวนี้ คือตัวอย่างของการไม่เคารพในมติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น ว่าด้วยโครงการนิวเคลียร์และโครงการอาวุธต่างๆ ของเกาหลีเหนือ ทั้งนี้ตามรายงานของสำนักงานอาร์ไอเอของทางการรัสเซียในวันอังคาร
ขณะที่ กระทรวงการรวมชาติให้เป็นเอกภาพของเกาหลีใต้ ก็ออกคำแถลงระบุว่า เป็นเรื่องน่าผิดหวังที่เกาหลีเหนือกำลังบังคับให้ประชาชาติต้องเสียสละต่อไป จากการปฏิบัติการชนิดมุ่งยั่วยุคราวนี้ อันจะทำให้โสมแดงยิ่งโดดเดี่ยวและถูกลงโทษคว่ำบาตรจากประชาคมระหว่างประเทศ
ที่สหรัฐฯ จอร์จ ลิตเติล โฆษกเพนตากอน แถลงว่า เลียน แพเนตตา รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้หารือทางโทรศัพท์กับ คิม กวานจิน รัฐมนตรีกลาโมกาหลีใต้เมื่อวันจันทร์ (9) และสรุปว่า การปล่อยขีปนาวุธของเกาหลีเหนือถือเป็นการยั่วยุร้ายแรงและละเมิดมติของยูเอ็น
วันเดียวกันนั้น กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้แถลงเรียกร้องให้เกาหลีเหนือระงับการทดสอบนิวเคลียร์หรือการปล่อยดาวเทียม รวมทั้งเรียกร้องให้จีนใช้อิทธิพลเพื่อขัดขวางไม่ให้เปียงยางแสดงพฤติกรรมยั่วยุดังกล่าว
ทางด้านปักกิ่งที่ให้การสนับสนุนเกาหลีเหนือทั้งด้านเศรษฐกิจและการทูตนั้น หลิว เว่ยหมิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงเรียกร้องให้อยู่ในความสงบ และย้ำความกังวลของปักกิ่งต่อพัฒนาการบนคาบสมุทรเกาหลี
แผนการของเกาหลีเหนือกระตุ้นให้ญี่ปุ่นเตรียมพร้อมรับเหตุ โดยประกาศว่าจะยิงทำลายจรวดของเกาหลีเหนือหากล่วงล้ำน่านฟ้า
“หากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ ญี่ปุ่นจะพิจารณาขั้นตอนต่อไปในการร่วมมือกับนานาชาติ รวมถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็น” นายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ กล่าว
ขณะเดียวกัน สายการบินหลายแห่งซึ่งรวมถึงโคเรียน แอร์ไลนส์, ฟิลิปปินส์ แอร์ไลนส์ และเซบู แอร์ พร้อมใจปรับเปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางจรวดของเปียงยาง