เอเจนซีส์ - เกาหลีเหนือพาคณะผู้สื่อข่าวต่างชาติ ไปเยี่ยมชมศูนย์อวกาศแห่งใหม่ในหุบเขากลางป่าทางภาคตะวันตกเฉียงเหนืออันห่างไกลของประเทศ โดยที่มีการนำเอาจรวดซึ่งกำหนดยิงขึ้นสู่วงโคจรภายในสัปดาห์นี้ ออกมาตั้งพรักพร้อมบนฐานปล่อย ทั้งนี้ ความสำเร็จหรือความล้มเหลวของการปฏิบัติการคราวนี้ จะเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถของโสมแดงในการยิงขีปนาวุธที่มีพิสัยไกลถึงดินแดนอเมริกา
ในกิจกรรมซึ่งนานเหลือเกินกว่าโสมแดงจะจัดขึ้นสักครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือได้พาคณะผู้สื่อข่าวต่างประเทศประมาณ 50 คน ขึ้นขบวนรถไฟพิเศษไปยังสถานีปล่อยจรวดโซเฮ เมืองตงชาง-รี ซึ่งอยู่ใกล้ๆ พรมแดนจีน เมื่อวันอาทิตย์ (8) และให้ชมจรวด “อีนฮา-3” ความสูง 30 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 เมตร ติดตั้งอยู่บนฐานปล่อย ตลอดจนดาวเทียม “กวางเมียงซอง-3” น้ำหนัก 100 กิโลกกรัม ห่อหุ้มด้วยแผงพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า
ส่วนต่างๆ ของจรวดได้รับการติดตั้งบนฐานยิงครบถ้วนทั้ง 3 ท่อน บ่งชี้ความพร้อมในการปล่อยตามกำหนดระหว่างวันที่ 12-16 นี้
เกาหลีเหนือประกาศว่าแผนการคราวนี้เป็นการยิงจรวดนำดาวเทียมวิจัยอย่างสันติขึ้นสู่วงโคจร เพื่อเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 100 ปีของคิม อิลซุง ผู้ก่อตั้งประเทศ อีกทั้งเพื่อตอกย้ำเกียรติภูมิของ คิม จองอึน หลานปู่ของผู้ก่อตั้งประเทศ ที่เพิ่งขึ้นครองอำนาจในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม พวกผู้เชี่ยวชาญวิตกว่า จรวดท่อนที่ 2 ที่เป็นตัวเร่งความเร็ว ซึ่งเมื่อหมดบทบาทหน้าที่แล้วก็จะถูกสลัดออกมา โดยที่โสมแดงกำหนดให้ตกลงสู่ทะเลทางตะวันตกของฟิลิปปินส์ ห่างจากฐานปล่อยราว 3,000 กิโลเมตร ทว่าหากมีความผิดพลาด ก็อาจจะตกลงบนบก
แต่ถ้าเกาหลีเหนือแยกจรวดส่วนที่ 3 ได้สำเร็จเพื่อนำดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร ก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเปียงยางมีความคืบหน้าด้านเทคโนโลยี และสามารถผลิตขีปนาวุธที่บรรจุหัวรบนิวเคลียร์และมีพิสัยไกลข้ามมหาสมุทรได้ ทั้งนี้โสมแดงกล่าวอ้างว่าทำเช่นนี้ได้แล้วในการยิงจรวดเมื่อปี 2009 ทว่าผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ไม่เชื่อ และเห็นว่าการทดสอบครั้งนั้นประสบความล้มเหลว
ในคราวนี้ โสมแดงยังได้ย้ายสถานที่ยิงจรวด โดยฐานปล่อยแห่งใหม่ที่มีความซับซ้อนทันสมัยมากขึ้นนี้ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของคาบสมุทรเกาหลี จึงช่วยลดความเสี่ยงในการที่จะมีซากชิ้นส่วนตกลงในญี่ปุ่น เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในการทดสอบขีปนาวุธก่อนหน้านี้
คาดกันว่าครั้งนี้จรวดท่อนแรกที่แยกตัวออกมาจะตกบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกของคาบสมุทรเกาหลี กระนั้นญี่ปุ่นที่กังวลเหตุการณ์ซ้ำรอย ก็ได้สั่งติดตั้งระบบอาวุธต่อต้านขีปนาวุธพร้อมสกัดกั้นหากจรวดเกาหลีเหนือล่วงล้ำดินแดน
ทางด้านพวกเจ้าหน้าที่ทหารเกาหลีใต้ก็แสดงความสงสัยว่า เกาหลีเหนือน่าจะยังมีปัญหาอีกมากเรื่องเทคโนโลยีที่แม่นยำซึ่งจำเป็นสำหรับการติดตั้งหัวรบหรือการนำวิถี โดยมีแนวโน้มว่า อึนฮา-3 จะเป็นขีปนาวุธนำวิถี 3 ขั้นตอนแบบเดียวกับที่เปียงยางยิงข้ามญี่ปุ่นเมื่อ 3 ปีก่อน และสุดท้ายก็ตกลงมาหลังจากเดินทางไปได้ 3,800 กิโลเมตร
เชื่อกันว่า จรวดลูกใหม่นี้มีพิสัยไกลกว่า 6,700 เมตร และสามารถรับน้ำหนักได้ 1,000 กิโลกรัม
ทั้งนี้ จุดที่ใกล้ที่สุดระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ คือ มลรัฐอะแลสกา อยู่ห่างจากแดนโสมแดงราว 5,000 กิโลเมตร
พวกผู้เชี่ยวชาญด้านจรวดของเกาหลีใต้เชื่อว่า เกาหลีเหนือกำลังพัฒนาเทคโนโลยีหลายแขนงพร้อมกัน ได้แก่ เทคโนโลยีจรวดที่สามารถบรรจุหัวรบนิวเคลียร์ วัสดุที่สามารถต้านทานอุณหภูมิสูงเมื่อกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ และการย่อขนาดหัวรบนิวเคลียร์
นอกจากการปล่อยดาวเทียมแล้ว ในวันพุธ (10) พรรครัฐบาลเกาหลีเหนือยังมีกำหนดจัดประชุมพิเศษซึ่งคาดว่า จะมีการแต่งตั้ง จองอึน เป็นเลขาธิการใหญ่พรรคแทนคิม จองอิล ผู้บิดาที่ถึงแก่อสัญกรรมปลายปีที่แล้ว และถัดจากนั้นไปอีก 2 วันก็จะมีการประชุมรัฐสภา เพื่อแต่งตั้งจองอึนเป็นประธานคณะกรรมาธิการกลาโหมแห่งชาติ หรือตำแหน่งใหม่อื่นๆ
สำหรับในวันอาทิตย์ (15) ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดคิม อิลซุง คาดกันว่าจะมีประชาชนนับแสนๆ ร่วมเฉลิมฉลองบนท้องถนนในเปียงยาง และผู้สังเกตการณ์บางคนเชื่อว่า เกาหลีเหนือจะยิงดาวเทียมในวันดังกล่าว