เอเอฟพี - ยามฝั่งสหรัฐฯ ตัดสินใจยิงจมซาก “เรือผีสึนามิ” ของญี่ปุ่น วานนี้ (5) หลังถูกคลื่นซัดลอยไปไกลถึงน่านน้ำอะแลสกา จนอาจเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ
ซากเรือประมงลำนี้ถูกพบครั้งแรกนอกชายฝั่งของแคนาดา เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา โดยล่องลอยตามกระแสน้ำข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกมาไกลหลายพันไมล์ หลังเกิดสึนามิที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2011
“เหตุที่เราต้องจมเรือลำนี้เพราะมันอาจเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ” ซารา ฟรานซิส โฆษกสำนักงานยามฝั่งอะแลสกาให้สัมภาษณ์
“เรือลำนี้มีความยาวประมาณ 150-200 ฟุต มันลอยเท้งเต้งอยู่อย่างนั้นโดยปราศจากมนุษย์ควบคุมและไม่ติดไฟ ซึ่งเวลากลางคืนอาจเป็นอันตรายสำหรับเรือลำอื่นที่ผ่านมา”
เจ้าของเรือในญี่ปุ่นประกาศว่าไม่ต้องการได้มันกลับคืน และเมื่อเช้าวานนี้ (5) ลูกเรือชาวแคนาดาคนหนึ่งพยายามจะลากมันกลับเข้าฝั่ง แต่เมื่อไปพิจารณาดูใกล้ๆ ก็ล้มเลิกความตั้งใจ จึงเกิดแผนการจมเรือขึ้น
จ่าทหารเรือ กิป แวดโลว์ หัวหน้าหน่วยยามฝั่งในเมืองจูโน ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่เริ่มระดมยิงรอบแรกเพื่อจมซากเรือประมงแล้ว และจะประเมินผลก่อนที่จะยิงเป็นครั้งที่ 2 โดยจะทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเรือจะจมสู่ก้นทะเล
หน่วยยามฝั่งยืนยันว่า เรือลำนี้จะไม่เป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อมของชายฝั่งรัฐอะแลสกา และแคนาดา
“หากยังมีเชื้อเพลิงหลงเหลืออยู่ ก็คาดว่าจะเป็นน้ำมันดีเซล ซึ่งสามารถสลายไปได้อย่างรวดเร็ว และเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมในวงจำกัด” ฟรานซิสระบุ
เรือประมงลำนี้นับเป็นเศษขยะจากสึนามิชิ้นใหญ่ที่สุดที่ถูกพัดไปติดชายฝั่งของสหรัฐฯ
คลื่นสึนามิที่ซัดลถ่มชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้เศษขยะกว่า 20 ล้านตันล่องลอยออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งนักวิจัยในฮาวายก็ได้พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ที่จะช่วยติดตามการเดินทางของขยะเหล่านี้ และทำนายว่าพวกมันจะไปเกยตื้นที่ใดบ้าง