เอเอฟพี - คงไม่แปลกหากวัยรุ่นคนหนึ่งได้ลูกฟุตบอลที่หายไปคืนมา แต่คงไม่ใช่กับเด็กชายชาวญี่ปุ่นรายนี้ที่ได้ลูกบอลสุดรักกลับมาอย่างไม่คาดคิด เนื่องด้วยมันถูกพบที่อะแลสกา หลังจากคลื่นยักษ์สึนามิที่ซัดถล่มแดนปลาดิบเมื่อปีที่แล้ว พัดพามันลอยไปไกลเป็นระยะทางหลายพันกิโลเมตร
มิซากิ มูระงามิ หนุ่มน้อยวัย 16 สูญเสียบ้านและข้าวของทั้งหมดเมื่อเกิดคลื่นยักษ์สึนามิซัดกวาดเมืองริคุเซนทางาตะ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นในวันที่ 11 มีนาคมปีที่แล้ว
แต่เวลานี้ต้องขอบคุณช่างเทคนิคของสถานีเรดาร์ บนเกาะมิดเดิลตัน ซึ่งเป็นสถานที่ห่างไกลในอ่าวอะแลสกา สหรัฐฯ ที่พบลูกฟุตบอลของ มูระงามิ และเตรียมส่งคืนให้แก่เขา หลังแกะรอยอักษรภาษาญี่ปุ่นบนลูกฟุตบอล มีความหมายว่า “โชคดี” ที่เขียนโดยเพื่อนเก่าร่วมชั้นเรียนของเด็กชายรายนี้จนรู้ว่าใครคือเจ้าของ
“ผมยินดีมาก เพราะข้าวของของผมหายเกลี้ยงเลย” หนุ่มน้อยบอกกับสำนักข่าวทีบีเอสในวันอาทิตย์ (22)
ศูนย์ทะเลวิทยาและบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NOAA) บอกว่าผู้พบลูกฟุตบอล คือ นายเดวิด แบ็กซ์เตอร์ วัย 51 ปี และเขาพบลูกบอลลูกนี้บนชายหาดแห่งหนึ่งของเกาะมิดเดิลตัน “มีชื่อโรงเรียนอยู่บนลูกฟุตบอล และภรรยา(ชาวญี่ปุ่น) ของเขาก็ช่วยอ่าน และทำให้ทราบร่องรอยเบาะแส” และจากการติดตามต่อของสื่อ จึงทราบว่าลูกฟุตบอลเป็นของหนุ่มน้อยมูระงามิ
การเดินทางของลูกฟุตบอลกลายเป็นข่าวโด่งดังในญี่ปุ่น และในรายละเอียดยังบอกอีกว่า แบ็กซ์เตอร์ ยังพบลูกวอลเลย์บอลลูกหนึ่งที่มีข้อความเป็นภาษาญี่ปุ่น และทางสื่อมวลชนก็เร่งมือตามหาเจ้าของ
จนถึงช่วงบ่ายวันจันทร์ (23) สื่อมวลชนแดนปลาดิบก็พบว่าเจ้าของลูกวอลเลย์บอล คือ ชิโอริ ซาโตะ สาววัย 19 ที่เคยพำนักในจังหวัดอิวาเตะ ที่เจอภัยสึนามิคราวเดียวกัน และเวลานี้ลูกบอลทั้งสองกำลังถูกส่งคืนมาให้เจ้าของเดิมแล้ว
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน ยามฝั่งสหรัฐฯ ก็เพิ่งตัดสินใจยิงจมซากเรือประมงยาว 65 เมตรของญี่ปุ่น หลังถูกคลื่นซัดลอยไปไกลถึงน่านน้ำอะแลสกา จนอาจเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ