เอเจนซี - ความตายที่มีสาเหตุมาจากบุหรี่เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 3 เท่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่บริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่ตั้งแง่ขัดขวางความพยายามของภาครัฐที่จะปกป้องชีวิตผู้คนเป็นล้านๆ ผลการศึกษาที่นำโดย “มูลนิธิปอดโลก” รายงานในวันนี้ (21)
ในรายงานฉบับนี้ มูลนิธิปอดโลกและสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐฯ ระบุร่วมกันว่า หากแนวโน้มการสูบบุหรี่ยังเป็นไปในลักษณะนี้ จะมีคนราวหนึ่งพันล้านคนจะเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ โดยในศตวรรษนี้จะมีผู้เสียชีวิตคิดเป็น 1 คน ต่อทุกๆ 6 วินาที
บุหรี่คร่าชีวิตผู้สูบทั่วโลกไปแล้วประมาณ 50 ล้านคน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และบุหรี่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ชายมากกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ และผู้หญิง 7 เปอร์เซ็นต์ เช่น สถานการณ์ในจีน บุหรี่เป็นเพชฌฆาตหมายเลข 1 พรากลมหายใจชาวจีน 1.2 ล้านคนต่อปี และคาดกันว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.5 ล้านคน ภายในปี 2030
ไมเคิล อีริคเซน หนึ่งในผู้เขียนรายงานฉบับนี้ เปิดเผยว่า กลุ่มผู้สูบบุหรี่กำลังเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง โดยอัตราการสูบในประเทศที่พัฒนาแล้วกำลังลดลง ส่วนในภูมิภาคที่ยากจนกว่ากลับสูบบุหรี่เพิ่มขึ้น
อีริคเซน ซึ่งผู้อำนวยการสถาบันสาธารณสุข มหาวิทยาลัยแห่งรัฐจอร์เจีย กล่าวว่า “การเสียชีวิตจากบุหรี่กำลังเพิ่มขึ้นในโลกกำลังพัฒนา โดยเฉพาะเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา”
เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ที่เสียชีวิตจากการเจ็บป่วยจากบุหรี่ มาจากประเทศที่มีรายได้ระดับกลางและล่าง
รายงานฉบับนี้ยังระบุว่า บริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่ตั้งแง่ต่อต้านนโยบายรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ ด้วยการฟ้องร้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ระงับกฎหมายที่กำหนดให้มีคำเตือนบนซองบุหรี่ หรือกำหนดพื้นที่ห้ามสูบบุหรี่
บริษัทบุหรี่ระดับโลก 6 บริษัท ทำเงินได้รวมกัน 35,100 ล้านดอลลาร์ ในปี 2010 ซึ่งเท่ากับรายได้รวมกันของ โคคา-โคลา, ไมโครซอฟต์ และแมคโดนัลด์ รายงานระบุ