เอเอฟพี/เอเจนซี - ราคาน้ำมันขยับลงแรงเมื่อวันอังคาร (21) หลังซาอุดีอาระเบียย้ำพร้อมผลิตเพิ่มเพื่อตรึงราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางความกังวลต่อผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ขณะที่วอลล์สตรีทก็ปิดลบเช่นกัน จากความวิตกต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 2.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 105.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 1.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 124.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แอดดิสัน อาร์มสตรอง นักวิเคราะห์จากเทรเดชัน เอนเนอร์จี บอกว่า “ตลาดนิวยอร์กตกอยู่ใต้แรงกดดันของแรงคาดเดาที่ว่าซาอุดีอาระเบียจะเพิ่มกำลังผลิต หลังจากเมื่อวันจันทร์ (20) คณะรัฐมนตรีซาอุฯ บอกว่ากำลังดำเนินการทั้งตามลำพังและภายใต้การร่วมมือกับชาติอื่นๆ ในความพยายามปรับราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับที่เป็นธรรม”
ความเห็นนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อเร็วๆ นี้ ซาอุดีอาระเบียออกมาย้ำว่าพร้อมผลิตน้ำมันเพิ่มเพื่อชดเชยอุปทานที่ขาดแคลนไปของอิหร่าน อันเป็นผลมาจากมาตรการคว่ำบาตรทางพลังงานของชาติตะวันตกต่อโปรแกรมนิวเคลียร์ของเตหะราน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (20) ขยับลงพอสมควรท่ามกลางความกังวลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน และข้อมูลที่ผสมผสานของภาคอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 68.64 จุด (0.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,170.49 จุด แนสแดค ลดลง 4.25 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,074.07 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 4.25 จุด (0.30 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,405.50
ช่วงเปิดตลาด ดัชนีทั้ง 3 ตัวก็เคลื่อนไหวในแดนลบทันที หลังนักลงทุนกังวลต่อการเติบโตที่ชะงักงันในจีน ชาติเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของโลก ซึ่งเวลานี้กลายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ขณะที่ข้อมูลการก่อสร้างบ้านในสหรัฐฯ ก็มีออกมาแบบผสมผสาน บ่งชี้ว่าภาคที่เป็นต้นตอของวิกฤตการเงินยังคงเปราะบางอยู่