xs
xsm
sm
md
lg

ให้เหยื่อข่มขืนแต่งงานกับคนร้าย!! กลุ่มสิทธิฯ โมร็อกโกร้องยกเลิก กม.อัปยศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กลุ่มนักเคลื่อนไหวสิทธิสตรีในโมร็อกโก กดดันให้ล้มเลิกกฎหมายที่อนุญาตให้ผู้ก่อเหตุข่มขืนสมรสกับเหยื่อหนีความผิด
บีบีซี - นักเคลื่อนไหวโมร็อกโก เดินหน้ากดดันให้ล้มเลิกกฎหมายที่อนุญาตให้ผู้ก่อเหตุข่มขืนสมรสกับเหยื่อหนีความผิด หลังเกิดกรณีเด็กสาววัย 16 ปีรายหนึ่งฆ่าตัวตายหลังถูกบังคับให้แต่งงานกับผู้กระทำผิด

สาวน้อยอมินา ฟิลาลี กินสารหนูฆ่าตัวตายหลังจากถูกทำร้ายอย่างทารุณระหว่างชีวิตสมรสกับชายผู้ที่ลงมือข่มขืนเธอ ขณะที่ ฟิลาลี ก็รู้สึกทุกข์ใจและอัปยศอดสูอยู่ก่อนแล้วที่ต้องแต่งงานกับคนร้ายที่ล่วงละเมิดทางเพศตนเอง

คดีนี้จุดชนวนเสียงร้องเรียนทางออนไลน์ และผู้ประท้วงวางแผนชุมนุมกันในวันเสาร์นี้ (17) เพื่อแสดงความคัดค้านกฎหมายให้พวกเขาให้คำจำกัดความว่า “น่าละอาย” เนื่องจากกฎหมายอาญามาตรการหนึ่งกำหนดไว้ว่าผู้ข่มขืนหรือลักพาตัวจะถูกละเว้นโทษ ถ้าหากผู้ร้ายยินยอมที่จะแต่งงานกับเหยื่อให้ถูกต้องตามประเพณี

กลุ่มสิทธิสตรีบอกว่า กฎหมายนี้อ้างขนบธรรมเนียมอนุญาตให้ผู้ก่อเหตุข่มขืนสมรสกับเหยื่อเพื่อปกป้องเกียรติยศของครอบครัวฝ่ายหญิง ขณะที่โดยส่วนใหญ่แล้วครอบครัวของเหยื่อก็มักจะยอมให้ลูกสาวแต่งงานกับคนร้ายแต่โดยดี เพราะมีความคิดว่าหญิงสาวที่ถูกข่มขืนนั้นมีประวัติด่างพร้อย คงไม่มีผู้ชายคนไหนอยากแต่งงานด้วยอีก

“กฎหมายมาตรา 247 คือความอดสูของภาพลักษณ์แห่งความทันสมัยและเป็นประชาธิปไตยของโมร็อกโก” ประธานองค์กรเพื่อสิทธิสตรีบอกกับบีบีซี “ในโมร็อกโกมีกฎหมายปกป้องศีลธรรมส่วนร่วม แต่กลับไม่มีกฎหมายปกป้องตัวบุคคลเลย”

ผู้สื่อข่าวของบีบีซีระบุว่า ในพื้นที่อนุรักษนิยมของโมร็อกโก เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ที่ผู้หญิงสูญเสียพรหมจรรย์ก่อนแต่งงาน และถือเป็นความเสื่อมเสียต่อตัวเองและครอบครัวแม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะถูกข่มขืนก็ตาม

กฎหมายของโมร็อกโกกำหนดอายุสมรสไว้ที่ 18 ปี หรือจนกระทั่งมีกรณีแวดล้อมพิเศษ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ฟิลาลี ถึงแต่งงานได้แม้อายุยังต่ำกว่าเกณฑ์ก็ตาม ขณะที่ศาลก็ทำได้เพียงแค่แนะนำให้สมรสเท่านั้นหากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเห็นพ้อง

บิดาของฟิลาลีเปิดเผยว่า ตอนที่เขาได้รับแจ้งเรื่องที่ลูกสาวถูกข่มขืน เขาได้รับคำแนะนำถึงทางเลือกสำหรับแต่งงานจากเจ้าหน้าที่ยุติธรรม “อัยการแนะนำให้ลูกสาวของผมแต่งงาน”

สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า หญิงสาวรายนี้เคยคร่ำครวญกับทางครอบครัวเกี่ยวกับการถูกทำทารุณโดยสามีที่ครั้งหนึ่งเคยข่มขืนเธอ แต่ทางครอบครัวกลับไม่ยอมฟังและจึงเป็นเหตุให้เธอลงมือปลิดชีพตนเอง

ทั้งนี้ แกนนำที่รณรงค์กดดันให้ยกเลิกกฎหมายนี้ ยังเรียกร้องให้ลงโทษจำคุกผู้พิพากษารายใดก็ตามที่อนุญาตให้มีการสมรสระหว่างเหยื่อกับมือข่มขืน ส่วนผู้ก่อเหตุก็ควรต้องไปชดใช้กรรมในห้องขังเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น