จนท.สอบเหตุเพลิงไหม้ อบต.ระแว้ง ขณะฐานทหารคลิปฉาวเร่งย้ายของออกจากพื้นที่

ปัตตานี - จนท.เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ อบต.ระแว้ง ด้านนายก อบต.ระแว้ง เผยต้องอาศัยสำนักงาน ทต.ยะรัง หลังเก่าเป็นสำนักงานชั่วคราวก่อน ขณะเดียวกัน ทหาร ร้อย.ร.1333/1 ซึ่งถูกกดดันให้ออกจากพื้นที่หลังก่อเหตุอื้อฉาวล่วงละเมิดทางเพศ ก็เร่งขนย้ายข้าวของย้ายฐานปฏิบัติการออกจากพื้นที่ดังกล่าวด้วย

วันนี้ (12 มี.ค.) พ.ต.ท.อันธีร์ ก่ออารีย์ รอง ผกก.สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปัตตานีเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ระแว้ง เสียหายทั้งหลัง โดยเหตุเกิดเมื่อคืนที่ผ่านมา

จากการเปิดเผยของนายอับดุลฮาริส อดุลย์ศาสน์ นายก อบต. ระแว้ง ระบุว่า ช่วงเกิดเหตุมียามดูแลรักษาความปลอดภัย 2 คนกำลังทำหน้าที่เฝ้าดูแลความปลอดภัยบริเวณด้านหน้า ซึ่งพบว่าเป็นปกติดี จนกระทั่งได้เกิดเพลิงลุกไหม้จากด้านหลังของสำนักงาน อบต.แต่ไม่กล้าเข้าไปดับไฟ เพราะเกรงจะเกิดอันตราย จึงได้แจ้งให้ตนทราบเพื่อหาแนวทางแก้ไข

“จากนั้นจึงได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะประสานขอกำลังรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลยะรังเข้ามาสกัดเพลิงทันที แต่เนื่องจากว่าตัวสำนักงานมีโครงสร้างที่เป็นไม้สักส่วนใหญ่ ประกอบกับไฟติดมาจากด้านหลังที่มีเศษไม้ เศษหลังคาฉาก ที่เจ้าหน้าที่ทหารรื้อออกแล้วกองอยู่ก่อนจะนำย้ายออกไปสร้างที่แห่งใหม่กลายเป็นตัวเชื้อเพลิงอย่างดี

จึงทำให้ตัวอาคารวอดไปกับไฟทั้งหลังรวมทั้งอุกการณ์ เครื่องไม้ เครื่องมือ เอกสารการคลังของ อบต. ซึ่งขนาดนี้ยังอยู่ระหว่างการประเมินมูลค่าความเสียหายส่วนสถานที่ หรือสำนักงาน อบต.ระแว้ง คงต้องหาที่ทำงานชั่วคราวเสียก่อน คาดว่าคงต้องขอย้ายไปอาศัยสำนักงานเทศบาลตำบลยะรังหลังเก่าเป็นสำนักงานชั่วคราว ” นายก อบต. ระแว้ง กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย.ร.1333/1 ซึ่งเดิมตั้งฐานปฏิบัติการณ์ในพื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2548 และมีคำสั่งให้ย้ายออกจากพื้นที่ ลงวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้นำรถยนต์บรรทุกหกล้อ ประมาณ 3 คัน ขนย้ายข้าวของพร้อมป้ายฐานปฏิบัติการระแว้งออกจากบริเวณดังกล่าว ตามข้อเสนอของชาวบ้านที่ได้มีการรวมตัวขึ้นพร้อมระบุไม่ให้ทหารเข้ามาตั้งฐานอยู่ในพื้นที่ระแว้งอีกต่อไป เนื่องจากมีเหตุเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย.ร. 1333/1 ล่วงละเมิดหญิงสาวมุสลิมในพื้นที่พร้อมบันทึกคลิปฉาวออกเผยแพร่ ซึ่งการขนย้ายในครั้งนี้ทหารไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ

ส่วนความคืบหน้าของคดีอื้อฉาวดังกล่าว ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำไปการดำเนินคดี ซึ่งทางกองทัพได้ส่งตัวแทนเข้ามาไกล่เกลี่ยและพร้อมที่เข้าชดเชยเพื่อเยียวยาผู้เสียหายรวมทั้งพ่อแม่ของฝ่ายหญิงด้วย แต่ยังตกลงกันไม่ได้เพราะถูกสังคมกดดันให้มีการดำเนินการให้ถึงที่สุดเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง

นายก อบต.ระแว้งยังกล่าวอีกว่า ที่นี่เป็นศูนย์รวมของคนนับถือศาสนาอิสลามในละแวกนี้ก็ว่าได้ เพราะบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของสถาบันปอเนาะ (โรงเรียนสอนศาสนา) อยู่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้สังคมที่นี่ยิ่งรับไม่ได้กับเหตุที่เกิดขึ้น ตนในฐานะตัวแทนของชาวบ้านจึงต้องกล้าพูดแทนชาวบ้าน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาของทหารรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

“เพราะทหารมาเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ต้องไม่เป็นฝ่ายสร้างปัญหาเพิ่มมาอีก ส่วนสภาพจิตใจของหญิงสาวผู้เสียหายนั้น ได้รับการเปิดเผยจากผู้ปกครองว่ามีอาการร้องไห้เป็นประจำ ซึมเศร้า และยังไม่รู้ว่ามันจะเป็นเช่นนี้อีกนานเท่าไหร่” นายก อบต.ระแว้ง ทิ้งท้าย