วิดีโอการทดสอบหุ่นยนต์ AlphaDog ของหน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารของสหรัฐอเมริกา
เดลิเมล์ - กองทัพสหรัฐฯกำลังดำเนินการวิจัยเทคโนโลยีใหม่ที่นำไปสู่การใช้หุ่นยนต์ออกรบแทนมนุษย์ โดยมีทหารใช้จิตควบคุมหุ่นยนต์เหล่านั้นจากระยะไกล และหากประสบความสำเร็จก็มีความเป็นได้ว่าในอนาคตอาจได้เห็น "สงครามจักรกล" ของแท้
หน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารของสหรัฐอเมริกา (Darpa) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยเทคโนโลยีชั้นสูงของเพนตากอน จัดสรรงบประมาณราว 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับดำเนินการวิจัยในโครงการนี้ ซึ่งตั้งชื่อว่า "อวตาร(Avatar)" ซึ่งเป้าหมายของการวิจัยฟังดูคล้ายๆกับโครงการที่ปรากฎอยู่บนแผ่นฟิล์มในภาพยนต์ชื่อเดียวกัน
ในภาพยนตร์ของ เจมส์ คาเมรอน ซึ่งอ้างถึงเหตุการณ์ในอนาคต ทหารผู้เป็นมนุษย์ใช้จิตควบคุมร่างกายของร่างต่างดาว(อวตาร) ขณะที่พวกเขาทำสงครามต่อต้านมนุษย์โลกผู้รุกราน
โดยในรายงานงบประมาณปี 2013 ของหน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารของสหรัฐอเมริการะบุว่าโครงการอวตารจะเป็นการพัฒนาระบบเชื่อมต่อและชุดคำสั่งเพื่อให้ทหารควบคุมคู่หูได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยอุปกรณ์กำหนดท่าทางกึ่งอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้มันเคลื่อนไหวเสมือนเป็นตัวแทนของทหารนายนั้น
ทั้งนี้รายงานดังกล่าวที่เผยแพร่เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ผ่านเว็บไซต์ wired.com ระบุด้วยว่าหุ่นยนต์ที่ควบคุมด้วยจิตจากระยะไกลเหล่านี้ จะสามารถปฏิบัติภารกิจได้ทุกอย่างเหมือนๆกับทหารมนุษย์ อาทิเข้าเคลียร์พื้นที่ คุ้มกันและต่อสู้ ซึ่งทั้งหมดดำเนินการผ่านการควบคุมระยะไกล
แม้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนถึงวิธีการที่จะทำให้โครงการผสมผสานจิตระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์นี้ประสบความสำเร็จ แต่ทางหน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารอธิบายในหมายหตุว่ามันจะเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญของเทคโนโลยีเทเลพรีเซนต์และปฏิบัติการระยะไกลทางภาคพื้น
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าหน่วยงานนี้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโทคโนโลยีควบคุมหุ่นยนต์ผ่านความคิดแล้วแต่ใช้ลิงเป็นตัวทดสอบ อย่างไรก็ตามนั่นเพิ่มความเป็นไปได้ว่าสงครามในอนาคตอาจเป็นการต่อสู้กันของจักรกลหุ่นเชิด
นอกจากนี้หน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารของสหรัฐอเมริกา ยังอยู่ระหว่างวิจัยพัฒนาหุ่นยนต์หลายตัวทั้ง Humanoid (หุ่นยนต์คล้ายคน) และ AlphaDog หุ่นยนต์ 4 ขาที่ออกแบบมาเพื่อบรรทุกสัมภาระ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหน่วยงานแห่งนี้ได้เผยแพร่วิดีโอชุดใหม่ของ AlphaDog และเน้นว่าพวกเขาต้องการให้มันมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อคำสั่งของนายทหารในแบบเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่างสุนัขฝึกกับผู้ดูแล
เดลิเมล์ - กองทัพสหรัฐฯกำลังดำเนินการวิจัยเทคโนโลยีใหม่ที่นำไปสู่การใช้หุ่นยนต์ออกรบแทนมนุษย์ โดยมีทหารใช้จิตควบคุมหุ่นยนต์เหล่านั้นจากระยะไกล และหากประสบความสำเร็จก็มีความเป็นได้ว่าในอนาคตอาจได้เห็น "สงครามจักรกล" ของแท้
หน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารของสหรัฐอเมริกา (Darpa) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยเทคโนโลยีชั้นสูงของเพนตากอน จัดสรรงบประมาณราว 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับดำเนินการวิจัยในโครงการนี้ ซึ่งตั้งชื่อว่า "อวตาร(Avatar)" ซึ่งเป้าหมายของการวิจัยฟังดูคล้ายๆกับโครงการที่ปรากฎอยู่บนแผ่นฟิล์มในภาพยนต์ชื่อเดียวกัน
ในภาพยนตร์ของ เจมส์ คาเมรอน ซึ่งอ้างถึงเหตุการณ์ในอนาคต ทหารผู้เป็นมนุษย์ใช้จิตควบคุมร่างกายของร่างต่างดาว(อวตาร) ขณะที่พวกเขาทำสงครามต่อต้านมนุษย์โลกผู้รุกราน
โดยในรายงานงบประมาณปี 2013 ของหน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารของสหรัฐอเมริการะบุว่าโครงการอวตารจะเป็นการพัฒนาระบบเชื่อมต่อและชุดคำสั่งเพื่อให้ทหารควบคุมคู่หูได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยอุปกรณ์กำหนดท่าทางกึ่งอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้มันเคลื่อนไหวเสมือนเป็นตัวแทนของทหารนายนั้น
ทั้งนี้รายงานดังกล่าวที่เผยแพร่เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ผ่านเว็บไซต์ wired.com ระบุด้วยว่าหุ่นยนต์ที่ควบคุมด้วยจิตจากระยะไกลเหล่านี้ จะสามารถปฏิบัติภารกิจได้ทุกอย่างเหมือนๆกับทหารมนุษย์ อาทิเข้าเคลียร์พื้นที่ คุ้มกันและต่อสู้ ซึ่งทั้งหมดดำเนินการผ่านการควบคุมระยะไกล
แม้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนถึงวิธีการที่จะทำให้โครงการผสมผสานจิตระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์นี้ประสบความสำเร็จ แต่ทางหน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารอธิบายในหมายหตุว่ามันจะเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญของเทคโนโลยีเทเลพรีเซนต์และปฏิบัติการระยะไกลทางภาคพื้น
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าหน่วยงานนี้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโทคโนโลยีควบคุมหุ่นยนต์ผ่านความคิดแล้วแต่ใช้ลิงเป็นตัวทดสอบ อย่างไรก็ตามนั่นเพิ่มความเป็นไปได้ว่าสงครามในอนาคตอาจเป็นการต่อสู้กันของจักรกลหุ่นเชิด
นอกจากนี้หน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารของสหรัฐอเมริกา ยังอยู่ระหว่างวิจัยพัฒนาหุ่นยนต์หลายตัวทั้ง Humanoid (หุ่นยนต์คล้ายคน) และ AlphaDog หุ่นยนต์ 4 ขาที่ออกแบบมาเพื่อบรรทุกสัมภาระ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหน่วยงานแห่งนี้ได้เผยแพร่วิดีโอชุดใหม่ของ AlphaDog และเน้นว่าพวกเขาต้องการให้มันมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อคำสั่งของนายทหารในแบบเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่างสุนัขฝึกกับผู้ดูแล