พิจิตร - องค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ จับมือศูนย์วิจัยพัฒนาเกษตรฯ เพาะต้นกล้าพันธุ์พืชผักโตเร็ว นับล้านต้นแจกชาวบ้านลุ่มน้ำยม ที่เคยถูกน้ำท่วมพืชผักสวนครัวตามรั้วบ้าน-หัวไร่ปลายนาเสียหายพร้อมเตรียมพันธุ์มะนาวแจกจ่ายอีกหลายพันกล้า
นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นายก อบจ.พิจิตร และนายเสงี่ยม แจ่มจำรูญ ผอ.ศูนย์วิจัยพัฒนาการเกษตร จ.พิจิตร เปิดเผยถึงแนวทางการฟื้นฟูในพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมของ จ.พิจิตร ว่าปัญหาที่พบตอนนี้คือ พืชผักสวนครัวที่เป็นพืชอาหารริมรั้ว และตามหัวไร่ปลายนาของชาวบ้านถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย
อีกทั้งในช่วงที่เกิดน้ำท่วมที่ผ่านมาสวนมะนาวจำนวนกว่า 3 หมื่นต้นก็ถูกน้ำท่วมเสียหายจึงทำให้ขณะนี้มะนาวในจังหวัดพิจิตรเกิดขาดตลาดและมีราคาขยับสูงขึ้น ทำให้มีราคาขายสูงถึงผลละ 5 บาท
ดังนั้น อบจ.พิจิตร จึงได้ร่วมกับศูนย์วิจัยพัฒนาการเกษตร จ.พิจิตร ทำการเพาะต้นกล้าพันธุ์ผักโตเร็ว อันได้แก่ มะเขือ บวบ ถั่วฝักยาว คะน้า ผักบุ้งจีน พริก จำนวน 1 ล้านต้น เพื่อเตรียมการแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในเขตลุ่มน้ำยม เพื่อนำไปปลูกเป็นพืชอาหารต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้ทำการเพาะต้นกล้ามะนาวพันธุ์พิจิตร 1 ซึ่งมีจุดเด่น คือ เป็นต้นมะนาวที่เพาะจากต้นพันธุ์จากเมล็ดที่มีรากแก้ว และทาบกิ่งต่อยอดด้วยต้นมะนาวพันธุ์ดีที่มีการปรับปรุงสายพันธุ์ที่มีความต้านทานโรคแครงเกอร์ ที่จะออกผลนอกฤดูกาลอีกทั้งอายุการปลูกแค่ 1 ปี ก็จะให้ผลผลิตไม่น้อยกว่า 50 ผล เหมาะที่จะปลูกเป็นทั้งไม้ประดับประจำบ้านหรือตามร้านอาหารต่างๆ ด้วยการปลูกไว้ในกระถางหรือในวงปูน แต่ถ้ามีพื้นที่ว่างจะปลูกลงดินแค่เพียงบ้านละ 1 ต้น หรือตามร้านค้า ร้านอาหาร ,โรงเรียน-วัด ต่างๆ เพียงแค่ปลูกไว้ 4-5 ต้น ก็จะได้ผลมะนาวเพียงพอต่อการบริโภค
ซึ่งปกติมะนาวพันธุ์พิจิตร 1 นี้ อายุระหว่าง 8-12 เดือน ความสูง 80-100 ซม.จะขายอยู่ที่ต้นละ 500 บาท แต่เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ราษฎรลดรายจ่าย อบจ.ได้ร่วมกับศูนย์วิจัยพัฒนาการเกษตร จ.พิจิตร ทำการเพาะต้นพันธุ์เพื่อจะแจกฟรีให้กับชาวบ้านในพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วม เพื่อนำไปปลูกเป็นพืชอาหารตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงต่อไป