เอเอฟพี - กองกำลังติดอาวุธในลิเบียกำลังละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นวงกว้าง ก่อความไม่มั่นคง และเป็นอุปสรรคต่อการสร้างประเทศใหม่ องค์การนิรโทษกรรมสากลเสนอรายงานสถานการณ์ลิเบีย วันนี้ (16) หลังครบรอบ 1 ปี ของการเริ่มต้นปฏิวัติประเทศ
“กลุ่มติดอาวุธทั่วลิเบียก่อเหตุละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยไม่มีความผิด บ่อนทำลายความมั่นคง และขัดขวางการสร้างสถาบันรัฐขึ้นมาอีกครั้ง” รายงานขององค์การนิรโทษกรรมสากล ระบุ
รายงานฉบับนี้เผยแพร่เนื่องในวันครบรอบ 1 ปี ที่ประชาชนลิเบียลุกฮือขึ้นต่อต้านระบอบมูอัมมาร์ กัดดาฟี เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2011 โดยได้เสนอข้อมูลการละเมิดสิทธิ “ขั้นร้ายแรง” เช่น การตามล้างแค้นกลุ่มผู้ภักดีต่อกัดดาฟี และอีกหลายกรณีซึ่งประชาชนเหล่านี้ถูกคุมขังและทรมานจนถึงแก่ความตาย เสมือนบ้านเมืองไร้ขือแป
“กองกำลังติดอาวุธในลิเบียส่วนใหญ่อยู่เหนือการควบคุม กฎหมายไม่สามารถเอาผิดได้ คนกลุ่มนี้ยังนิยมละเมิดสิทธิมนุษยชนแ เป็นภัยถาวรต่อความมั่นคงและความปลอดภัย” โดนาเตลลส โรเวรา ที่ปรึกษาระดับสูงขององค์การนิรโทษกรรมสากล ระบุ
“วิธีเดียวที่จะจัดการกับพฤติกรรมที่เคยอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการของพันเอกกัดดาฟี คือ การหาหลักประกันว่า ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และต้องการมีการดำเนินคดีกับการละเมิดสิทธิผู้อื่น”
ผู้ลี้ภัยชาวแอฟริกามักตกเป็นเป้าหมาย และยังมีการตามล้างแค้นกลุ่มผู้ภักดีต่อกัดดาฟี หรือแม้กระทั่งการขับไล่ให้ชาวบ้านอพยพทั้งหมู่บ้าน แต่ “ทางการก็ไม่ได้ลงมือสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ”
รายงานฉบับนี้เก็บข้อมูลจากการวิจัยในพื้นที่ลิเบียระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ คณะนักวิจัยได้พบกับเจ้าหน้าที่เรือนจำ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล แพทย์ ทนาย นักโทษ อดีตนักโทษ ญาติของผู้เสียชีวิตหรือถูกทรมานในเรือนจำ รวมทั้งตัวแทนของทางการลิเบียซึ่งยึดอำนาจจากพันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี
ภายใต้แรงกดดันจากพลเรือน รัฐบาลรักษาการของลิเบียมีพันธกิจสำคัญ คือ การปลดอาวุธกลุ่มนักรบจำนวนมากที่ช่วยกันโค่นล้มกัดดาฟี