เอเอฟพี - มิตต์ รอมนีย์ คว้าชัยชนะในการหยั่งเสียงขั้นต้นแบบคอคัสที่รัฐเมน เพื่อเลือกผู้แทนพรรครีพับลิกันลงชิงชัยในสนามเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปลายปีนี้ โดยได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 39 เมื่อวันเสาร์(11) ชาร์ลี เว็บสเตอร์ ประธานพรรครีพับลิกันประจำรัฐเมน เผย
ผู้สมัครที่ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 2 ได้แก่ รอน พอล ส.ส.จากรัฐเท็กซัส ซึ่งได้คะแนนนิยมน้อยกว่าแค่ฉิวเฉียดร้อยละ 36 ซึ่งที่ผ่านมา พอล ให้เวลากับการหาเสียงในรัฐเท็กซัสมากเป็นพิเศษ แม้จะไม่มีคู่แข่งที่น่ากลัวก็ตาม
อดีต ส.ว. ริก แซนทอรัม ได้รับคะแนนโหวตร้อยละ 18 ขณะที่ นิวต์ กิงกริช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร มาเป็นลำดับท้ายสุดด้วยคะแนนเพียงร้อยละ 8
แม้คนส่วนใหญ่จะมองการเลือกตั้งที่รัฐเมนเป็นเพียงสีสัน ทว่าชัยชนะของ รอมนีย์ ก็ถือเป็นการเพิ่มโอกาสที่เขาจะกลับมาเป็นตัวเต็งของพรรค หลังจากที่พ่ายให้กับ แซนทอรัม มา 3 สนามซ้อนในสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้ผู้คนเริ่มไม่เชื่อมั่นกับมนต์เสน่ห์มัดใจของมหาเศรษฐีนักลงทุนผู้นี้
จากการหยั่งความคิดเห็นผู้เข้าร่วมการประชุมสายอนุรักษ์นิยมที่กรุงวอชิงตันในเช้าวันเลือกตั้ง ปรากฎว่า รอมนีย์ ได้คะแนนโหวตร้อยละ 38 ส่วน แซนทอรัม ได้ไปร้อยละ 31
รอมนีย์ ไม่ได้ทุ่มเทหาเสียงที่รัฐเมนมากนัก แต่เมื่อวันศุกร์(10)ที่ผ่านมา ก็ใช้เวลารณรงค์หาเสียงราว 11 ชั่วโมงเพื่อหลีกเลี่ยงการพ่ายแพ้อีกเป็นสนามที่ 4 ซึ่งจะทำให้โอกาสในการเป็นผู้แทนพรรคเหลือน้อยลงไปอีก
จากคะแนนโหวตทั้งสิ้นราว 5,000 เสียงในรัฐเมน รอมนีย์ เฉือนชนะ แซนทอรัม ไปได้เพียง 196 เสียงเท่านั้น
“นี่เป็นเพียงการหยั่งเสียงที่ไม่เป็นทางการ ซึ่งแสดงให้เห็นภาพบางส่วนหรือกระแสในปัจจุบันว่า ผู้สมัครคนไหนได้รับความนิยมสูงสุดจากการหยั่งเสียงแบบคอคัสทั่วทุกรัฐ” เว็บสเตอร์ กล่าว
หลังออกมายอมรับความพ่ายแพ้ พอล ซึ่งสนับสนุนรัฐบาลขนาดเล็กและต่อต้านนโยบายแทรกแซงต่างชาติ กล่าวต่อผู้สนับสนุนว่า “ขอให้จำไว้ว่า การปฏิวัติยังเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม พอล ยอมรับว่า ชัยชนะของ รอมนีย์ ทำให้โอกาสที่เขาจะเป็นผู้สมัครตัวเต็งมีสูงมาก
“เขาเพียงแต่ขาดความกระตือรือร้นแบบที่พวกเราทุกคนมี คุณก็ทราบ เขาดูตื่นเต้นกับสิ่งที่เขาเชื่อเสียเหลือเกิน ผมว่านั่นคือปัญหาใหญ่ของเขา” พอล ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น
“แต่ผมก็ต้องบอกว่า ใช่ เขาเป็นตัวเต็ง และประชาชนก็กำลังจ้องจับผิดเขาอยู่ ถึงเขาจะพลาดไปบ้าง แต่ก็เริ่มกลับมาทำคะแนนได้อีกครั้ง เราก็ต้องยกความดีให้เขาในจุดนี้”