เอฟบีไอเผยแฟ้มตรวจสอบประวัติ“สตีฟ จ็อบส์”

เอเอฟพี - สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) เปิดเผยแฟ้มประวัติ “สตีฟ จ็อบส์” ความยาว 191 หน้า ซึ่งรวบรวมขึ้นจากการสัมภาษณ์บุคคลผู้แวดล้อมและเกี่ยวข้องกับตัวเขา โดยวาดภาพของผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิลผู้ล่วงลับผู้นี้อย่างตรงไปตรงมาเป็นอย่างมาก

แฟ้มประวัตินี้รวบรวมขึ้นในระหว่างที่เอฟบีไอทำการสืบสวนภูมิหลังของ จ็อบส์ ภายหลังที่จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช ประธานาธิบดีสหรัฐฯในเวลานั้น เสนอแนะที่จะแต่งตั้งเขาเข้านั่งอยู่ในคณะกรรมาธิการเพื่อการส่งออก แห่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

สิ่งที่อยู่ในแฟ้มประวัติมีทั้งรายงานคำให้สัมภาษณ์ของพวกผู้ร่วมงาน, เพื่อนฝูง, สมาชิกในครอบครัว, และแม้กระทั่งพวกเพื่อนบ้านของ จ็อบส์ ผู้ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ด้วยโรคมะเร็งในตับอ่อน สิริอายุได้ 56 ปี

ชื่อของบุคคลต่างๆ ที่เอฟบีไอทำการสัมภาษณ์เหล่านี้ได้ถูกลบออกไปจากแฟ้ม ซึ่งถูกนำมาเปิดเผยภายหลังที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล ยื่นเรื่องขอเรียกดูโดยใช้สิทธิตามกฎหมายว่าด้วยเสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสาร ถึงแม้สถานที่ทำงานของบุคคลเหล่านี้มักทำให้คาดทายได้ว่าพวกเขาเป็นใคร

เอฟบีไอยังได้สัมภาษณ์ จ็อบส์ เพื่อเป็นการตรวจสอบภูมิหลังอีกด้วย ภายหลังที่ในตอนแรก จ็อบส์ ได้แจ้งว่าเขาจะไม่ว่างไป 3 สัปดาห์ และเมื่อว่างแล้วก็ให้เวลาได้เพียงแค่ 1 ชั่วโมง

จ็อบส์บอกกับเอฟบีไอว่า เขาไม่เคยใช้ยาเสพติดผิดกฎหมายใดๆ ในระหว่าง 5 ปีที่ผ่านมา แต่เขาเคยทดลองเสพทั้งกัญชา, ยางกัญชา, และแอลเอสดี ในระหว่างปี 1970-74 เมื่อยังเรียนอยู่ในระดับมัธยมปลายและระดับมหาวิทยาลัย

รายงานของเอฟบีไอในแฟ้มประวัติตังข้อสังเกตว่า จ็อบส์ เคยเกี่ยวข้องพัวพันกับคดีฟ้องร้องต่างๆ จำนวนมาก ในฐานะที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทแอปเปิล ทว่าไม่เคยถูกจับคุม และไม่ได้เป็นสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์

จ็อบส์ ซึ่งในตอนที่ทำการตรวจสอบประวัตินี้ ได้ออกจากบริษัทแอปเปิลแล้ว และไปเป็นผู้บริหารของบริษัท เน็กซ์ คอมพิวเตอร์ ได้ถูกผู้ให้สัมภาษณ์บางคนในแฟ้มประวัติเอฟบีไอระบุว่า เป็นคนที่มี “จิตใจเข้มแข็ง, ดื้อดึง, ทำงานหนัก, และมีพลังขับดัน” หรือกระทั่งบอกว่าเป็น “อัจฉริยะ” รายงานเอฟบีไอกล่าว

“อย่างไรก็ดี พวกเขากล่าวต่อไปด้วยว่า มิสเตอร์จ็อบส์จะรักษาความซื่อสัตย์เอาไว้เพียงตราบเท่าที่เขาได้สิ่งที่เขาปรารถนาเท่านั้น” รายงานบอก

“บุคคลจำนวนมากตั้งคำถามเกี่ยวกับความเที่ยงตรงของมิสเตอร์จ็อบส์ โดยระบุว่ามิสเตอร์จ็อบส์จะบิดผันความจริงและบิดเบือนความเป็นจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเขา” รายงานกล่าวต่อ แต่ก็บอกด้วยว่า “ผู้ได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งผู้นี้ มีความจริงใจและตรงไปตรงมากับผู้คนเป็นอย่างยิ่ง และบ่อยครั้งจะพูดตรงๆ ถึงสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่”

รายงานนี้ยังขุดคุ้ยเข้าไปยังเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง จ็อบส์ กับอดีตแฟนเก่าของเขา และบุตรสาวของทั้งคู่

“ในอดีตที่ผ่านมา มิสเตอร์จ็อบส์ไม่ได้ให้ความสนับสนุนช่วยเหลือ (แก่มารดาของบุตรสาวของเขาที่เกิดนอกสมรสผู้นี้) ตลอดจนบุตรสาวของพวกเขาทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังๆ มานี้ มิสเตอร์จ็อบส์ได้ให้ความสนับสนุนช่วยเหลือเพิ่มมากขึ้น” รายงานบอก

ในหนังสือชีวประวัติอย่างเป็นทางการของ จ็อบส์ ที่เขียนโดย วอลเตอร์ ไอแซคสัน และเพิ่งตีพิมพจำหน่ายเมื่อเร็วๆ นี้ ตัวจ็อบส์เองก็ยอมรับทั้งเรื่องที่เขาเคยเสพยาเสพติด และการที่ในตอนต้นๆ เขาไม่ได้ใกล้ชิดกับบุตรสาวของเขา

ผู้หญิงคนหนึ่งที่เอฟบีไอสัมภาษณ์บอกว่า จ็อบส์เป็นคนที่ขาดชีวิตส่วนตัว “เนื่องจากความหลงไหลในตัวเองของเขาและความผิวเผินตื้นเขินของเขา” แต่เขาก็เป็นผู้ที่มี “วิสัยทัศน์กว้างไกลมาก”

“เธอระบุด้วยว่า ความสำเร็จของเขาที่แอปเปิล ... ยังเป็นเหตุให้เขาไม่ใส่ใจกับเรื่องความเที่ยงธรรมและความซื่อสัตย์อยู่เป็นครั้งคราว และกระทั่งเป็นเหตุให้เขาถึงขั้นบิดเบือนความจริงอยู่เป็นครั้งคราวด้วยซ้ำเพื่อให้เขาได้สิ่งที่ปรารถนา” รายงานกล่าว

มีผู้ให้สัมภาษณ์อีกคนหนึ่งบอกว่า จ็อบส์ “ได้ผ่านประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงในหลักปรัชญา ด้วยการไปเข้าร่วมในลัทธิลี้ลับและศาสนาแบบตะวันออก และ/หรือ แบบอินเดีย”

“การเปลี่ยนแปลงนี้ดูเหมือนส่งอิทธิพลต่อชีวิตส่วนตัวของผู้ได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งผู้นี้ไปในทางที่ดีขึ้น” รายงานเอฟบีไอระบุ “ผู้ได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งผู้นี้ ใช้ชีวิตแบบสมถะมากขึ้น และบางครั้งบางคราวก็ถึงขั้นอยู่แบบผู้เคร่งครัดศาสนาทีเดียว”

ถึงแม้ผู้ให้สัมภาษณ์เหล่านี้บางคนมีคำถามบางประการเกี่ยวกับบุคลิกภาพของจ็อบส์ แต่ทุกๆ คนต่างกล่าวว่า พวกเขาจะให้การรับรองว่า จ็อบส์อยู่ใน “ฐานะที่พึงได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากรัฐบาลสหรัฐฯ”

นอกเหนือจากแฟ้มการตรวจสอบภูมิหลังของจ็อบส์แล้ว เอฟบีไอยังได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการสอบสวนกรณีการขู่วางระเบิดบริษัทแอปเปิลเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 1985 อีกด้วย โดยที่มีการระบุว่าได้มีบุคคลลึกลับโทรศัพท์เรียกร้องเงิน 1 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการพบระเบิดใดๆ และก็ไม่ได้มีการจ่ายเงินใดๆ ด้วย