เอเจนซี/เอเอฟพี - ภาวะหิมะตกหนักและลมกระโชกแรงยังคงเล่นงานทั่วยุโรปตะวันออกเมื่อวันอังคาร(7) ส่งผลให้หมู่บ้านหลายร้อยแห่งถูกตัดขาดและทีมกู้ภัยต้องเร่งมืออพยพผู้คนออกจากพื้นที่ทางใต้ของบัลแกเรีย หลังฝนที่เทกระหน่ำและหิมะหลอมละลายกลายเป็นกระแสน้ำไหลบ่าซัดกำแพงเขื่อนแตกและบ่าเข้าท่วมหมู่บ้าน ส่วนในเซอร์เบีย หวั่นเจอสถานการณ์คล้ายกันเตรียมระเบิดแม่น้ำที่จับตัวเป็นน้ำแข็งในมาตรการป้องกันไว้ก่อน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตทั่วทั้งทวีปพุ่งขึ้นไปแตะ 400 ศพแล้ว
เวลานี้ยอดผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศหนาวจัดที่เล่นงานยุโรปมาตั้งแต่เมื่อ 11 วันก่อน ขยับขึ้นไปที่อย่างน้อย 400 คน แต่นักพยากรณ์อากาศเตือนว่าสถานการณ์ยังคงไม่ดีขึ้นโดยเฉพาะในบางพื้นที่ซึ่งต้องเผชิญกับอุณหภูมิต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
ขณะที่สภาพอากาศทุเลาขึ้นเล็กน้อยในยูเครน ประเทศซึ่งพบผู้เสียชีวิตจากภูมิอากาศอันเลวร้ายกว่า 130 ราย แต่อุณหภูมิในยามค่ำคืนที่แคว้นควิลดา ของสาธารณรัฐเช็ก ก็ยังดำดิ่งแตะระดับ -39.4 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ยังพบคนนอนหนาวตายตามท้องถนน ในรถยนต์หรือแม้แต่ในบ้านเพิ่มเติมทั้งที่ เยอรมนี กรีซ อิตาลี โปแลนด์ ฮังการีและชาติต่างๆในแถบคาบสมุทรบอลข่าน
เจ้าหน้าที่ในเซอร์เบียบอกว่ามีประชาชนกว่า 70,000 คนที่ยังติดค้างอยู่ตามหมู่บ้านต่างๆทางใต้ของประเทศ หลังจากหมู่บ้านเหล่านั้นถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาทึบจนทางการต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ในโรมาเนีย สภาพอากาศที่เลวร้ายส่งผลให้หมู่บ้านและเมืองต่างๆราว 146 แห่งถูกตัดขาดทั้งทางถนนหรือการเดินรถไฟ ขณะเดียวกันก็มีถึง 174 หมู่บ้านที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ โฆษกของกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินบอกกับรอยเตอร์ส
สถานการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นแบบเดียวกับบัลแกเรีย ที่หมู่บ้านกว่า 300 แห่งถูกตัดขาด ถนนหลายสายงดการสัญจรและต้องปิดจุดตรวจข้ามพรมแดนไปยังโรมาเนียกับตุรกีหลายแห่ง พร้อมกันนั้นคาดหมายว่าประเทศแห่งนี้ยังต้องผจญกับภาวะหิมะตกหนักเช่นนี้ต่อไปและอาจหนักขึ้นกว่าเดิมด้วย
ทั้งนี้ฝนที่เทกระหน่ำและหิมะหลอมละลายในภาคใต้ของบัลแกเรียเมื่อวันจันทร์(6) เป็นเหตุให้กำแพงเขื่อนแตกและน้ำไหลบ่าเข้าท่วมหมู่บ้านแห่งหนึ่ง จนชาวบ้าน 4 รายจมน้ำตายและอีก 4 คนเสียชีวิตเนื่องจากรถยนต์ที่พวกเขานั่งถูกกระแสน้ำซัดตกสะพาน ส่วนชาวบ้านอีกกว่า 50 คนอพยพหนีเอาตัวรอดอย่างหวุดหวิด และในวันอังคาร(7) ทีมกู้ภัยก็กำลังเร่งมืออพยพชาวบ้านที่เหลือออกจากพื้นที่
ที่เซอร์เบีย เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่ากำลังเตรียมใช้ระเบิดทำลายน้ำแข็งที่เกาะตัวในแม่น้ำอิบาร์และดานูบ ในความกังวลว่าหากน้ำแข็งเหล่านี้ละลายอาจน้ำพามาซึ่งกระแสน้ำที่ไหลบ่าเข้าท่วมเมืองต่างๆเหมือนเช่นกับที่เกิดขึ้นในบัลแกเรีย
"ชั้นน้ำแข็งที่ก่อตัวบนแม่น้ำอิบาร์ใกล้เมืองคราเลียโว มีความหนาถึงครึ่งเมตร และมีความเสี่ยงอย่างมากที่มันจะละลายและทำน้ำในแม่น้ำไหลบ่าเข้าท่วมเมือง" เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งบอก พร้อมเผยว่าบางจุดของแม่น้ำดานูบที่จับตัวเป็นน้ำแข็งก็จะถูกระเบิดเช่นกัน
