เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศหนาวเหน็บเล่นงานยุโรปจนถึงวันจันทร์(6) เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 360 ราย หลังพบเหยื่อเพิ่มอีก 9 ศพในโปแลนด์ และอีก 8 รายจมน้ำตายในบัลแกเรีย หลังเขื่อนแห่งหนึ่งแตกจากฝนและหิมะที่เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก
หน่วยฉุกเฉินเปิดเผยว่าฝนและพายุหิมะที่ซัดกระหน่ำพื้นที่ทางใต้ของบัลแกเรีย เล่นงานเชื่อนแห่งหนึ่งจนพังเมื่อเช้าวันจันทร์(6) ส่งผลให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมเมืองเล็กๆไบเซอร์ ที่ต้องจมอยู่ใต้บาดาลลึกกว่า 2.5 เมตร
ซลัตกา ซัลโควา นายกเทศมนตรีเมืองไบเซอร์บอกกับสำนักข่าวท้องถิ่นว่าชายชรา 3 คนจมน้ำตายอยู่ภายในบ้าน ขณะที่สถานีวิทยุแห่งชาติรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอีก 2 รายหลังจากรถยนต์ที่พวกเขานั่งถูกกระแสน้ำซัดตกจากสะพาน ขณะที่ปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่กำลังดำเนินการอย่างเร่งรีบภายในเมืองที่มีประชากรราว 800 คน
ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่าเขื่อนที่ใหญ่กว่านี้อีก 2 แห่งบริเวณทางใต้ของบัลแกเรียก็เสี่ยงที่จะเกิดรอยแยกเช่นกัน และชาวบ้านได้รับแจ้งเตือนให้เตรียมพร้อมสำหรับอพยพ นอกจากนี้ฝนที่เทลงมาอย่างหนักยังเป็นผลให้เกิดดินถล่มซัดรถไฟขบวนหนึ่งตกรางในแถบชายแดนติดกับตุรกี แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้
ส่วนที่โปแลนด์ อุณหภูมิลดต่ำลงไปถึง -24 องศาเซลเซียส อีกค่ำคืนแห่งความเหน็บหนาวที่คร่าชีวิตคนเร่ร่อนเพิ่มอีก 9 ราย ทั้งนี้ตลอด 10 กว่าวันที่ผ่านมานับตั้งแต่พายุหิมะเข้าเล่นงานประเทศแห่งนี้ มีผู้เสียชีวิตไปแล้วทั้งสิ้น 107 รายและส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียช้วิตอันเกี่ยวพันกับสภาพอากาศทั่วยุโรปตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคม พุ่งขึ้นเป็นอย่างน้อย 360 ศพแล้ว
ที่ลิทัวเนีย ชาติเพื่อนบ้าน อุณหภูมิลดลงไปแตะ -31 องศาเซลเซียส และเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 12 ศพ ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตนับตั้งแต่ผจญอากาศหนาวเล่นงานพุ่งเป็น 23 ศพ ส่วนที่ฮังกาเรีย ยอดรวมผู้เสียชีวิตขยับขึ้นเป็นอย่างน้อย 12 ศพ
ทางการของอิตาลีเร่งมือเคลียร์หิมะอย่างเต็มที่หลังกรุงโรมต้องเจอพายุหิมะแบบไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนักเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็ต้องเร่งมือกู้คืนไฟฟ้าให้แก่ประชาชนราว 60,000 ครัวเรือน หลังเกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเมืองต่างๆของแคว้นทัสกานี ทั้งเซียนาและอาเรซโซ
ทั้งนี้ที่อื่นๆทั่วยุโรป เจ้าหน้าที่พยายามเคลียร์ถนนและรันเวย์ที่เต็มไปด้วยหิมะ ที่ทำให้นักเดินทางหลายหมื่นคนต้องตกค้างในช่วงสุดสัปดาห์
หลังจากต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่าครั้งเมื่อวันอาทิตย์(5) ฝ่ายบริหารท่าอากาศยานฮีทโธรว์ของลอนดอนเผยว่าตารางการบินเกือบทั้งหมดกลับสู่ภาวะปกติแล้วในวันจันทร์(6) ขณะที่หลายพื้นที่ของสหราชกาณาจักรอุณหภูมิเริ่มอุ่นขึ้น ผิดกับชาตออื่นๆที่ยังถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ
ในเมืองควิลดา ของสาธารณรัฐเช็ก ติดกับชายแดนเยอรมนี อุณหภุมิปรับลดถึง -39.4 องศาเซลเซียส นับเป็นสภาพอากาศที่หนาวที่สุดของประเทศในช่วงฤดูหนาวปีนี้ ส่วนที่สวิตเซอร์แลนด์ ก็เจออุณหภูมิต่ำสุดในรอบหลายปีเช่นกัน โดยเฉพาะที่รัฐเกราบึนเดน ทางตะวันออกของประเทศ ที่เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์(5) อากาศขยับลงไปแตะ -35.1 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว
ที่ฝรั่งเศส แคว้นต่างๆ 39 จาก 101 แคว้นทั่วประเทศ ได้รับคำแนะนำให้เตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศอันหนาวเหน็บหรือหิมะตกหนัก ขณะที่มีการคาดหมายว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าภายในประเทศเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา น่าจะพุ่งสูงทุบสถิติตลอดกาล
รายงานข่าวระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 รายจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศนับตั้งแต่หิมะซัดถล่มฝรั่งเศส นอกจากนี้ล่าสุดยังพบชายเร่ร่อนรายหนึ่งนอนตายในย่านชานกรุงปารีส ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำ
สภาพอากาศอันหนาวเหน็บที่ห้อมล้อมเกือบทุกประเทศทั่วยุโรป ได้พัดข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปยังแอฟริกาเหนือแล้ว และมีรายงานว่าประชาชนถึง 16 รายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศอันเลวร้ายในแอลจีเรีย หลังมีหิมะตกลงมาปกคลุมตามท้องถนนสายต่างๆ
นอกจากนี้สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่าพบหิมะตกลงมาบริเวณทางใต้ของตูนีเซียเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี ด้วยอุณหภูมิลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็งในบางพื้นของประเทศและหลายหมู่บ้านถูกตัดขาด
