เอเอฟพี - จำนวนโลมาที่ตะเกียกตะกายขึ้นมาเกยตื้นตามชายฝั่งของแหลมเคปคอด ทางใต้ของบอสตัน สหรัฐฯ นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเป็นต้นมา เพิ่มเป็นอย่างน้อย 85 ตัวแล้ว ขณะที่สาเหตุของการเกยตื้นหมู่ครั้งนี้ยังคงเป็นปริศนา
โฆษกของกองทุนเพื่อการดูแลสัตว์นานาชาติ (IFAW) เปิดเผยว่า การเกยตื้นของโลมาในรัศมี 40 กิโลเมตรของชายฝั่งแหลมเคปคอดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีมากหมายจนเกือบจะเท่ากับจำนวนโลมาที่พบเกยตื้นตามชายฝั่งแห่งนี้ตลอดทั้งปีของปีอื่นๆเลยทีเดียว
“เรายืนยันได้ว่ายอดโลมาที่พบเกยตื้นนับตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม มีอยู่ 85 ตัว แต่จำนวนที่แท้จริงอาจสูงถึง 101 ตัว” เอเจ คาดี โฆษกของกองทุนกล่าว “เนื่องจากเราได้รับแจ้งถึงการพบเห็นโลมาตามจุดต่างๆ อีกราว 16 ตัว แต่เรายังไม่สามารถยืนยันได้ในตอนนี้”
“ทั้งนี้ในจำนวนทั้งหมดนั้น มี 35 ตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่อีก 50 ตัวตายก่อนหน้าที่เราจะพบพวกมัน” คาดีกล่าว
จุดที่พบโลมาเกยตื้นอยู่ในพื้นที่ของเวลล์ฟีตและอิสต์แฮม ดินแดนสันดอนทรายและช่องแคบอันคดเคี้ยวอันเลื่องชื่อทางใต้ของแหลมเคปคอด ชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของมลรัฐแมสซาซูเซสต์
บริเวณดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่เขตสงวนธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่ง และมีชื่อเสียงโด่งดังจากการเป็นถิ่นที่อยู่ของสัตว์น้ำใกล้สูญพันธุ์หลายชนิดในแอตแลนติกเหนือ รวมถึงวาฬและสัตว์ทะเลอื่นๆ
คาดีบอกว่าจำนวนที่พบในช่วงสองสัปดาห์ที่่ผ่านมาถือว่าผิดปกติอย่างมาก เนื่องจากเฉลี่ยในแต่ละปี ตลอดทั้งปีจะพบโลมาเกยตื้นราวๆ 120 ตัวเท่านั้น พร้อมกันนั้นโฆษกรายนี้ยังยอมรับว่ายังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัดของการเกยตื้นครั้งนี้ และแต่ละคนก็สันนิษฐานกันไปต่างๆ นานา
“ทฤษฎีหนึ่งคือพวกมันแค่หลงทาง เราสงสัยว่าบางทีพวกมันอาจไล่ตามฝูงปลาที่เป็นอาหารของมัน แล้วก็เกยตื้น” เขากล่าว “พวกมันเป็นสัตว์ที่มีความเป็นสังคมสูง พวกมันอยู่กันเป็นกลุ่ม และหากตัวไหนเจอปัญหา คุณก็มีโอกาสเห็นโลมาเกยตื้นเป็นฝูงในเวลาเดียวกัน เพราะพวกมันพยายามอยู่ด้วยกัน”