เอเจนซี - สมาคมสงเคราะห์สัตว์ถูกกับงงงวยหลังพบฝูงโลมาหลายสิบตัวตะเกียกตะกายขึ้นมาเกยตื้นตามชายฝั่งของแหลมเคปคอดอันสวยงามเลื่องชื่อทางใต้ของบอสตันตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว อันนับเป็นกรณีที่จู่ๆมีปลาโลมาว่ายขึ้นมาบนฝั่งด้วยตัวมันเองเป็นจำนวนมากที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปีเลยทีเดียว
กองทุนเพื่อการดูแลสัตว์นานาชาติ (IFAW) ระบุว่านับตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่(12) มีโลมาราว 60 แล้วที่ถูกพบนอนเกยตื้นในรัศมี 40 กิโลเมตรของชายฝั่งแหลมเคปคอด
ทั้งนี้ เคตี มัวร์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและช่วยเหลือสัตว์ทะเลของของกองทุนแห่งนี้เปิดเผยว่าตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้วพบโลมาเกยตื้นในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้งหมด 27 ตัว โดยจนถึงตอนนี้มี 19 ตัวที่ถูกปล่อยกลับคืนสู่ทะเลแล้ว แต่ก็น่าเศร้าเมื่ออีก 8 ตัวที่อ่อนแอเกินกว่าจะมีชีวิตรอด นอกจากนี้เธอยังคาดคะเนด้วยว่าพวกที่ถูกพบในสภาพที่ตายแล้วน่าจะมีอยู่ราวๆ 32 ตัว
เธอระบุว่าลักษณะการเกยตื้นของโลมาในปีนี้แตกต่างจากปีก่อนๆ โดยก่อนหน้านี้ในแต่ละปีจะพบโลมาเกยตื้นเพียงตัวเดียว แต่หากเป็นฝูงก็จะเกยตื้นรวมกันอยู่บนชายหาดเดียวเท่านั้น
ด้านเคอร์รี แบรนตัน โฆษกของกองทุนเพื่อการดูแลสัตว์นานาชาติเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่พบโลมาเกยตื้นตัวแรกในวันพฤหัสบดี(12) จากนั้นก็พบการเกยตื้นเรื่อยๆ และวันเสาร์(14) ก็กลายเป็นวันที่ยุ่งเหยิงที่สุดของหน่วยกู้ภัย หลังพบโลมาอย่างน้อย 37 ตัวที่นอนเกยตื้นกระจัดกระจายอยู่ตามชายฝั่งของหมู่บ้านต่างๆที่ตั้งอยู่ตามแหลมเคปคอด
แม้แบรนตันบอกว่าช่วงมกราคมถึงเมษายนถือเป็นปกติที่พบการเกยตื้นของโลมาในแต่ละปี และเหตุโลมาเกยตื้นเป็นสิ่งที่พบเห็นตามแหลมเคปคอดมาหลายศตวรรษแล้ว แต่ทางเหล่านักวิจัยยังคงพยายามหาสาเหตุให้ได้ว่าอะไรคือต้นตอที่ทำให้ในปีนี้มีโลมาขึ้นมาเกยตื้นจำนวนมาก
กองทุนเพื่อการดูแลสัตว์นานาชาติมองว่าพฤติกรรมของโลมาอาจเป็นต้นตอของเหตุการณ์นี้ โดยเฉพาะด้วยที่โลมาเป็นสัตว์ที่อยู่รวมกันเป็นฝูง นั่นอาจทำให้หลายตัวอาจว่ายน้ำตามตัวใดตัวหนึ่งขึ้นมายังน้ำตื้นจนเกิดเหตุเกยตื้นหมู่อย่างที่เห็น
นักชีววิทยาทางทะเลถูกส่งเข้าประเมินโลมาเหล่านี้ โดยทั้งตรวจสอบความตึงเครียดและสภาพร่างกายของมัน เช่นเดียวกับปัจจัยอื่นๆ จากนั้นก็ทำการติดป้ายระบุตัวก่อนปล่อยพวกมันกลับสู่ทะเลลึก ขณะที่ แบรนตัน เผยว่ามีโลมาจำนวนหนึ่งที่ถูกติดแถบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวและถ่ายทอดข้อมูลกลับมายังนักวิจัยด้วย
