เอเอฟพี - รัสเซียเปิดเผยถึงข้อสันนิษฐานในวันนี้ (17) เกี่ยวกับยานสำรวจดาวอังคาร “โฟบอส-กรันต์” ที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า ว่า อาจถูกรังสีจากเรดาร์ของสหรัฐฯ รบกวน ทำให้ไปไม่ถึงปลายทาง นับเป็นข้อกล่าวหาล่าสุดถึงประเด็นการแทรกแซงของชาติตะวันตกต่อโครงการอวกาศของมอสโก
“นั่นเป็นเพียงทฤษฎี” ยูริ คอปเตฟ หัวหน้าทีมนักวิทยาศาตร์ของ ‘รัสเซียน เทคโนโลยี’ บริษัทเทคโนโลยีของรัฐ ให้ข้อมูลกับสำนักข่าวเรีย-โนโวสตี
“เพื่อทดสอบทฤษฎีดังกล่าว อุปกรณ์ลักษณะเหมือนกับโฟบอส-กรันต์ จะถูกฉายด้วยรังสีที่อาจปล่อยออกมาโดยไม่ตั้งใจจากเรดาร์ของสหรัฐฯ” คอปเตฟ อดีตผู้อำนวยการองค์การอวกาศรัสเซีย ‘รอสคอสมอส’ กล่าว
ด้าน รอสคอสมอส กำลังตรวจหาสาเหตุอุบัติเหตุในโครงการอวกาศครั้งใหญ่ที่สุดของรัสเซีย หลังจากโฟบอส-กรันต์ พบจุดจบอันน่าอัปยศในวันอาทิตย์ (15) เมื่อตกกลับสู่โลกที่มหาสมุทรแปซิฟิก
ดมิตรี โรโกซิน รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ระบุในวันนี้ว่า ความล้มเหลวของ รอสคอสมอส ส่วนใหญ่เป็นผลพวงจากยุคมืดของโครงการอวกาศช่วงทศวรรษที่ 1990 ซึ่งองค์การขาดงบประมาณสนับสนุน ทำให้ผลิตอุปกรณ์ที่มีข้อบกพร่องออกมา
“หากเราสามารถพิสูจน์ได้ว่า มีการแทรกแซงจากต่างชาติต่อยานของเราเหนือซีกโลกส่วนที่เรามองไม่เห็น เราจะได้ข้อสรุปใหม่ถึงความล้มเหลวที่ผ่านมา” รองนายกฯ โรโกซิน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ อ้างอิงถึงชาติตะวันตก
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รอสคอสมอสก็เคยอ้างถึงความเป็นไปได้ที่อาจถูกแทรงแซงจากตะวันตก โดยวลาดิมีร์ โปปอฟคิน ผู้อำนวยการคนปัจจุบัน ตั้งคำถามอย่างเปิดเผยว่า ทำไมยานของรัสเซียถึงเกิดข้อผิดพลาดเสมอ เมื่อทะยานอยู่เหนือซีกโลกฝั่งตะวันตก
ทั้งนี้ โฟบอส-กรันต์ เป็นหนึ่งในความล้มเหลวครั้งใหญ่ของรัสเซีย ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 165 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,000 ล้านบาท) หลังจากประสบเหตุขัดข้องติดอยู่ในวงโคจรของโลก ตั้งแต่ทะยานขึ้นสู่อวกาศในวันที่ 9 พฤศจิกายน ก่อนตกลงสู่โลกในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ยานสำรวจไร้นักบินลำนี้มีภารกิจสำคัญในการเก็บดินบนดวงจันทร์โฟบอส ซึ่งเป็นดวงจันทร์บริวารของดาวอังคาร และยังรับหน้าที่ขนส่งยานอิ้งหัว-1 ยานสำรวจของจีน ไปให้ถึงเป้าหมายอีกด้วย