เอเอฟพี - มหาเศรษฐีผู้ได้ฉายา “พ่อมดการลงทุน” วอร์เรน อี. บัฟเฟ็ตต์ ออกปากท้าสมาชิกพรรครีพับลิกันให้ลงขันบริจาคเงินเพื่อลดการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ โดยตัวเขาเองก็จะควักกระเป๋าจ่ายในจำนวนเท่ากัน
บัฟเฟ็ตต์ ซึ่งถูกวุฒิสมาชิก มิตซ์ แม็คคอนเนลล์ จากพรรครีพับลิกันเหน็บแนมว่า หากต้องการช่วยลดการขาดดุลของประเทศจริงก็บริจาคเงินเข้าคลังสหรัฐฯ เสีย ให้สัมภาษณ์ตอบโต้ผ่านนิตยสารไทม์ส ว่าหากจะมีการบริจาค ทุกฝ่ายก็ต้องมีส่วนร่วม
“ถ้าจะใช้ระบบบริจาคกันละก็ ผมจะบริจาคเงินเท่าๆ กับที่สมาชิกพรรครีพับลิกันจ่ายรวมกันทั้งหมด และจะให้เป็น 3 เท่าของที่ แม็คคอนเนลล์ บริจาคด้วย” บัฟเฟ็ตต์เผย
ปีที่แล้ว แม็กคอนเนลล์ออกมาคัดค้านความเห็นของบัฟเฟ็ตต์ ซึ่งชี้ว่ากลุ่มคนร่ำรวยที่สุดสมควรจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นเพื่อลดปัญหาขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ
เจ้าของบริษัทลงทุน เบิร์กไชร์ แฮทธาเวย์ ซึ่งมีมูลค่าราว 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ระบุว่า เขาจ่ายภาษีให้รัฐบาลเพียง 17 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเมื่อเทียบแล้วยังน้อยกว่าอัตราที่เลขานุการของเขาต้องจ่ายเสียอีก
แม็กคอนเนลล์ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วว่า “ถ้า วอร์เรน บัฟเฟ็ตต์ อยากจะเสียสละรายได้บางส่วน เราก็ยินดีคุยเรื่องนี้”
“ส่วนเรื่องอัตราภาษีของเขานั้น ถ้าเขารู้สึกผิด ผมว่าเขาจ่ายเช็คเพิ่มมาก็ได้”
บัฟเฟ็ตต์ ตอบโต้คำท้าของแม็กคอนเนลล์ โดยบอกกับ ไทม์ส ว่า รู้สึกยินดีที่พรรครีพับลิกันมองว่า การเก็บภาษีสามารถทำในรูปเงินบริจาคได้
“มันช่วยฟื้นคืนความศรัทธาของผมที่ว่า น่าจะยังมีบางคนในรัฐบาลนี้ที่จิตใจไม่คับแคบเกินไปจนมองว่า (ปัญหาขาดดุลงบประมาณ) ไม่สามารถแก้ด้วยการบริจาคตามความสมัครใจ”
เมื่อนักข่าวถามว่า ทรัพย์สินของ แม็กคอนเนลล์ ซึ่งมีอยู่ราว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะทำให้คำท้าบริจาค 3 ต่อ 1 แพงเกินไปหรือไม่ มหาเศรษฐีอันดับ 3 ของโลกตอบว่า “ผมไม่กังวล”
ล่าสุด สำนักงานของแม็กคอนเนลล์ ออกมาตอบโต้ว่า สมาชิกพรรคเดโมแครตและประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็ควรจะรับคำท้าของบัฟเฟ็ตต์ด้วยเช่นกัน
“วุฒิสมาชิกแม็กคอนเนลล์มีความเห็นว่าวอชิงตันควรจะมีขนาดเล็กลง มิใช่เก็บภาษีให้มากขึ้น” โฆษก ดอน สจ๊วต กล่าวในถ้อยแถลง
“และในเมื่อบางคน เช่น ประธานาธิบดี โอบามา หรือคุณบัฟเฟ็ตต์ อยากจะจ่ายภาษีเพิ่มขึ้น สภาคองเกรสก็เปิดโอกาสให้พวกเขาทำตามที่พูด โดยส่งเช็คเข้ามาได้”
“เพราะฉะนั้น ผมรอคอยที่จะเห็นคุณบัฟเฟ็ตต์จ่ายเงินเทียบเท่ากับมูลค่าเช็คทั้งหมดนั้น ซึ่งมาจากผู้ที่ต้องการจ่ายภาษีเพิ่มจริงๆ เช่น ส.ส.เดโมแครต, ประธานาธิบดี รวมถึงคณะกรรมการพรรคเดโมแครตแห่งชาติด้วย”