เอเอฟพี - ฮ่องกงเมื่อวันอังคาร (20) ยกระดับเตือนภัยไข้หวัดนกสู่ขั้น “ร้ายแรง” และแถลงเตรียมฆ่าไก่ 17,000 ตัว หลังผลตรวจสัตว์ปีก 3 ตัวเพื่อหาเชื้อไวรัสเอช 5 เอ็น 1 ออกมาเป็นบวกทั้งหมด
นายยอร์ก โจว หัวหน้างานสาธารณสุขของฮ่องกง ต้องออกมาแถลงมาตรการต่างๆ หลังพบเชื้อไวรัสเอช 5 เอ็น 1 ในไก่ตายตัวหนึ่ง ณ ตลาดค้าส่งแห่งหนึ่งและนกป่าอีก 2 ตัว
ทางการมีมาตรการห้ามนำเข้าสัตว์ปีกมีชีวิตซึ่งมีผลบังคับใช้ในทันทีขณะที่พวกเขากำลังแกะรอยแหล่งที่มาของไก่ติดเชื้อตัวนั้นว่ามันถูกนำเข้าจากต่างประเทศหรือมาจากฟาร์มสัตว์ปีกท้องถิ่นกันแน่
สถานีโทรทัศน์อาร์ทีเอชเครายงานว่า มีนักเรียนจากโรงเรียนสตรีล้วนแห่งหนึ่งราว 20 คน ในนั้นอายุระหว่าง 6 ถึง 7 ขวบ มีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ อาทิ มีไข้ ไอและเจ็บคอ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการนำตัวพวกเธอส่งโรงพยาบาล
ฮ่องกงเป็นดินแดนแห่งแรกๆ ของโลกที่พบการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกในหมู่ผู้คนอย่างกว้างขวางในปี 1997 โดยมีประชาชนเสียชีวิตจากไวรัสที่กลายพันธุ์นี้ 6 คน และต่อมาก็ต้องมีการฆ่าสัตว์ปีกหลายล้านตัว
นายโจวแถลงว่า จะมีการฆ่าไก่ ณ ตลาดค้าส่งสัตว์ปีกที่พบไก่ติดเชื้อในวันพุธนี้ (21) “ผมขอแถลงด้วยความหดหู่ว่าจากการตรวจสอบของกระทรวงกสิกรรม ประมงและอนุรักษ์ในวันนี้(20) พบว่าไก่ตายตัวนั้นมีเชื้อเอช 5 เอ็น 1 ตอนนี้เราจำต้องยกระดับเตือนภัยไข้หวัดนกจากเฝ้าระวังสู่ขั้นร้ายแรงแล้ว”
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงยืนยันว่า นกกางเขนบ้านที่พบนอนตายในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งเมื่อวันเสาร์ (17) มีผลตรวจหาเชื้อเอช 5 เอ็น 1 ออกมาเป็นบวกเช่นกัน และนับเป็นกรณีที่สองในรอบสัปดาห์ หลังจากโรงเรียนมัธยมอีกแห่งก็ต้องปิดโรงเรียนเป็นเวลา 1 วันในวันศุกร์ที่แล้ว (16) หลังพบนกนางนวลขอบปีกขาวป่วยตายด้วยไข้หวัดนก
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนผู้ที่พบนกตัวดังกล่าวและลูกชายของเขามีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล อย่างไรก็ตามหลังจากตรวจอย่างละเอียดแล้วก็ไม่พบเชื้อไวรัสเอช 5 เอ็น 1 แต่อย่างใด
ประชาชนในฮ่องกงมีความตื่นตระหนกต่อโรคติดต่ออย่างมาก หลังดินแดนแห่งนี้เคยเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคซาร์สในปี 2003 ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากถึง 300 ราย