เอเอฟพี - รัฐบาลสหรัฐฯเปิดประมูลสัมปทานสำรวจน้ำมันนอกอ่าวเม็กซิโกเป็นครั้งแรกหลังเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลครั้งใหญ่เมื่อปีที่แล้ว วานนี้(14) ซึ่งมีผู้สนใจเสนอวงเงินประมูลสูงกว่า 337 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1 หมื่นล้านบาท)
โคโนโค ฟิลลิปส์ และ เอ็กซอนโมบิล เป็นหนึ่งใน 20 บริษัทพลังงานที่ร่วมประมูลสัมปทานสำรวจทรัพยากรในฝั่งตะวันตกของอ่าวเม็กซิโก หมายเลข 218 ซึ่งจะปล่อยให้เช่าพื้นที่อ่าวที่ไม่ยังผ่านการสำรวจมาก่อนจำนวน 3,913 บล็อก รวมพื้นที่ประมาณ 21 ล้านเอเคอร์ หรือเท่ากับขนาดของมลรัฐเซาท์แคโรไลนา
บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ บีพี ของอังกฤษ ซึ่งแท่นขุดเจาะในอ่าวเม็กซิโกระเบิดจนทำให้เกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลครั้งใหญ่เมื่อปี 2010 ก็เข้าร่วมการประมูลครั้งนี้ด้วย
“การประมูลสัมปทานในวันนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกหลังจากเกิดโศกนาฎกรรมที่แท่นขุด ดีปวอเตอร์ ฮอไรซัน เป็นการสานต่อเจตนารมณ์ของรัฐบาลประธานาธิบดี บารัค โอบามา ซึ่งสนับสนุนแผนพลังงานที่สมดุลและครอบคลุม” เคน ซาลาซาร์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยสหรัฐฯซึ่งร่วมฟังการประมูลด้วย ระบุ
“การสำรวจน้ำมันนอกชายฝั่งคงไม่อาจหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้ทั้งหมด แต่ตลอด 19 เดือนที่ผ่านมา เราได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วและแข็งขันที่จะปฏิรูปการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อให้มีความปลอดภัยและมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น” ซาลาซาร์ กล่าวในถ้อยแถลง
เหตุระเบิดที่แท่นขุดเจาะ ดีปวอเตอร์ ฮอไรซัน เมื่อวันที่ 20 เมษายน ปี 2010 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย และส่งผลให้น้ำมันดิบจากบ่อมาคอนโดรั่วไหลออกสู่ทะเลนานถึง 87 วัน พื้นที่ชายฝั่งตอนใต้ของสหรัฐฯถูกปกคลุมไปด้วยคราบน้ำมันสีดำ สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลแก่ธุรกิจท่องเที่ยวและการประมงในท้องถิ่น
กว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถปิดฝาบ่อน้ำมันซึ่งอยู่ลึกลงไปถึง 1.5 กิโลเมตรได้สำเร็จ ก็มีน้ำมันดิบรั่วไหลออกสู่มหาสมุทรถึง 4.9 ล้านบาร์เรล
บีพี ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบแท่นขุดเจาะน้ำมัน สูญเงินกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯไปกับหายนะทางทะเลครั้งนี้ และอาจยังต้องจ่ายค่าปรับ, ค่าชดเชย และค่าปฏิรูปฟื้นฟูอีกหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ