เอเอฟพี - ทีมกู้เรือนิวซีแลนด์กำลังพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อสูบน้ำมันเชื้อเพลิงออกจากเรือบรรทุกสินค้า “เรนา” ซึ่งเกยตื้นแนวหินปะการัง นอกชายฝั่งอ่าวเพลนตี้ เกาะเหนือของนิวซีแลนด์ ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ขณะที่วันนี้ (9) นายกรัฐมนตรีจอห์น คีย์ แห่งนิวซีแลนด์ สั่งค้นหาสาเหตุที่เรือเรนาแล่นชนแนวปะการัง ทั้งๆ ที่สภาพอากาศและคลื่นลมทะเลเงียบสงบ
สำนักอุตุนิยมวิทยานิวซีแลนด์ พยากรณ์ว่า ช่วงบ่ายวันจันทร์ (10) คลื่นลมทะเลบริเวณอ่าวเพลนตี้จะมีกำลังแรง ส่งผลให้ทีมกู้เรือต้องเร่งมือเต็มที่ เพื่อขนถ่ายน้ำมันเตาจากเรือระวางขับน้ำ 47,000 ตัน ลำนี้เป็นการด่วน ทั้งนี้ เนื่องจากทางการกังวลว่า เรือเรนาอาจจมลงสู่ก้นทะเล และอาจเกิดภัยพิบัติทางทะเลครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี หากยังไม่สามารถสูบน้ำมันเตากว่า 1,700 ตัน ออกจากเรือได้ทันท่วงที
สถานการณ์ปัจจุบัน มีน้ำมันรั่วไหลออกจากเรือเรนาแล้วประมาณ 20 ตัน ผืนน้ำบริเวณอ่าวเพลนตี้อันงดงามกลับเต็มไปด้วยคราบน้ำมันกินพื้นที่กว่า 5 กิโลเมตร โดยเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า อาจต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 2 วัน ในการสูบน้ำมันเชื้อเพลิงของเรือลำนี้ และคราบน้ำมันจะลอยถึงแผ่นดินใหญ่อย่างเร็วที่สุดในวันพุธ (12)
ด้าน นายกรัฐมนตรี จอห์น คีย์ แห่งนิวซีแลนด์ แถลงว่า รัฐบาลสั่งสอบสวนหาสาเหตุที่เรือเรนาแล่นเข้าชนแนวหินปะการัง ท่ามกลางสถาพอากาศและคลื่นลมทะเลที่เงียบสงบ เมื่อช่วงเช้าตรู่วันพุธ (5) ที่ผ่านมา โดยย้ำว่า คนทั่วไปต่างรู้ดีว่า บริเวณดังกล่าวเต็มไปด้วยหินปะการัง
ขณะเดียวกัน เรือกู้ภัยเริ่มการตักคราบน้ำมันขึ้นจากทะเล หลังจากมีการโปรยสารเคมีขจัดคราบน้ำมัน เพื่อช่วยในการเก็บกวาด
ขณะที่สำนักการเดินเรือนิวซีแลนด์ (เอ็มเอ็นแซด) รายงานว่า “ทีมกู้เรือจะเริ่มการสูบน้ำมันเชื้อเพลิง ออกจากเรือเรนาในทันทีที่ติดตั้งอุปกรณ์เรียบร้อย” และจะทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อขนถ่ายน้ำมันออกจากเรือ ก่อนที่คลื่นลมทะเลจะกระหน่ำโจมตีเรือ นอกจากนี้ ทางการนิวซีแลนด์ระบุว่า การขนถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงออกจากเรือเรนาอาจช่วยให้การกู้เรือจากแนวหินปะการังง่ายดายยิ่งขึ้น
ส่วน กระทรวงสาธาณสุขนิวซีแลนด์แถลงเตือนประชาชน ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารทะเลจากอ่าวเพลนตี้ จนกว่ามีการประกาศเปลี่ยนแปลง ขณะที่คราบน้ำมันเหล่านี้ได้ฆ่านกทะเลตายไปแล้วจำนวนมาก โดยอ่าวแห่งนี้เป็นถิ่นอาศัยที่สำคัญของวาฬ ปลาโลมา แมวน้ำ และเพนกวิน