กัปตันเรือจีนแทงยามฝั่งโสมขาวดับโดนข้อหา “ฆาตกรรม”

เอเอฟพี - ยามฝั่งเกาหลีใต้เผยมีหลักฐานแน่นหนาที่จะเอาผิดกัปตันเรือประมงจีน ซึ่งลักลอบทำประมงผิดกฎหมายและสังหารเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เพื่อหลบหนีการจับกุม ขณะที่เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความโกรธแค้นในหมู่ชาวโสมขาว และบั่นทอนสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและเกาหลีใต้

ประธานาธิบดี ลี เมียงบัค สั่งให้เจ้าหน้าที่ใช้มาตรการขั้นรุนแรงกับเรือประมงจีนที่ลักลอบเข้ามาหาปลาในน่านน้ำเกาหลีใต้ หลังเกิดเหตุยามฝั่งถูกลูกเรือประมงจีนสังหารและทำร้ายจนบาดเจ็บ วานนี้(12)

กรุงโซลเรียกทูตจีนเข้าพบเพื่อประท้วงเหตุสังหารยามฝั่ง ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นในระยะเวลาไม่ถึง 4 ปี

เช้ามืดวานนี้(12) ยามฝั่งเกาหลีใต้บุกเข้าจับกุมเรือประมงจีนซึ่งลักลอบเข้ามาทำประมงในน่านน้ำทะเลเหลือง โดยขณะที่เข้าไปตรวจค้นห้องบังคับเรือนั้น ชาวประมงจีนได้ขัดขืนการจับกุมและใช้มีดแทงยามฝั่ง 2 รายจนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตไป 1 รายในเวลาต่อมา

กัปตันเรือจีนวัย 42 ปีถูกคุมตัวไปสอบสวนที่ท่าเรืออินชอน วันนี้(13) โดยยามฝั่งได้ขอหมายจับอย่างเป็นทางการฐานฆาตกรรมและรุกล้ำเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเกาหลีใต้ ส่วนลูกเรืออีก 8 คนถูกกล่าวหาว่ามีความผิดฐานขัดขืนการจับกุม

“กัปตันจีนปฏิเสธว่าไม่ได้แทงยามฝั่งทั้ง 2 คน แต่เรามีหลักฐานที่ชัดเจน รวมถึงคราบเลือดบนเสื้อของเขาด้วย ดังนั้นคงไม่มีอุปสรรคในการตั้งข้อหาฆาตกรรม” โฆษกยามฝั่งเผย

เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว ยอนฮัป ว่า กัปตันเรือจีนน่าจะใช้มีด 2 เล่มเป็นอาวุธจ้วงแทงยามฝั่ง ซึ่งขณะนี้ได้นำไปตรวจลายนิ้วมือเพื่อเป็นหลักฐานแล้ว

สื่อมวลชนและนักการเมืองเกาหลีใต้ต่างตำหนิรัฐบาลจีนที่ไม่มีแถลงการณ์ขออภัยต่อเหตุการณ์ครั้งนี้

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่า จีนใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ที่จะป้องกันการทำประมงผิดกฎหมาย แต่ก็ขอร้องให้เกาหลีใต้ “ปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของจีน และผลประโยชน์ของชาวประมงจีน” ด้วย

หนังสือพิมพ์ จุงอัง อิลโบ พาดหัวข่าวในหน้า 1 ว่า ลูกเรือจีนเหล่านี้ “ไม่ใช่ชาวประมงแต่เป็นโจรสลัด” ขณะที่บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ชี้ว่า ลูกเรือประมงจีนซึ่งมีทั้งกระบอง, ขวาน และท่อเหล็กเป็นอาวุธนั้น ถือเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อยามฝั่งของเกาหลีใต้

“หากไม่มีมาตรการป้องกันในระยะยาว เหตุการณ์เช่นนี้อาจก่อความขัดแย้งทางการทูตครั้งใหญ่ระหว่างทั้ง 2 ชาติ” จุงอัง ระบุ

ด้านหนังสือพิมพ์ โชซุน อิลโบ แนะว่า ยามฝั่งควรได้รับอนุญาตให้พกพาอาวุธมากกว่านี้ เพื่อจัดการกับชาวประมงที่รุกล้ำน่านน้ำ พร้อมทั้งอ้างแหล่งข่าวระดับสูงในรัฐบาลว่า กำหนดการเยือนจีนของประธานาธิบดี ลี เมียงบัค ในเดือนมกราคมปีหน้าอาจต้องเลื่อนออกไป หากกรุงปักกิ่งยังไม่เสนอแนวทางแก้ปัญหาที่ชัดเจน

มลพิษทางทะเลและการทำประมงเกินขนาดในจีน ส่งผลให้ชาวประมงบางส่วนลักลอบเข้าไปจับปลาในน่านน้ำเกาหลีใต้ ซึ่งเรือประมงแต่ละลำที่ใช้เวลาออกเรือราว 2 สัปดาห์เพื่อจับปู, กุ้ง และปลากะตัก อาจทำรายได้ถึง 30 ล้านวอน (ราว 800,000 บาท) แต่หากถูกจับได้ก็จะต้องเสียค่าปรับตั้งแต่ 50-100 ล้านวอน (1.35-2.7 ล้านบาท)