เอเอฟพี - การปราบปรามผู้ประท้วงอย่างรุนแรงโดยรัฐบาลซีเรียส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกินกว่า 5,000 ราย นาวี พิลเลย์ ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ระบุวานนี้ (13) พร้อมเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นตั้งข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติกับผู้นำซีเรีย
พิลเลย์ เผยรายงานต่อคณะมนตรีความมั่นคงฯ ว่าด้วยเหตุปะทะที่รุนแรงขึ้นทุกขณะระหว่างฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียกับกองกำลังความมั่นคงของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ทั้งยังเตือนถึงสถานการณ์ที่ “น่าเป็นห่วง” ในเมืองฮอมส์
พิลเลย์ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหลังสรุปรายงานต่อคณะมนตรีความมั่นคงว่า ยอดผู้เสียชีวิตในซีเรียขณะนี้พุ่งเกิน 5,000 ราย ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นเด็กกว่า 300 คน พร้อมแนะให้มีการยื่นฟ้อง อัสซาด ต่อศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ ฐานใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วง
“การสังหารพลเรือนอย่างกว้างขวางและเป็นระบบ การกักขังหน่วงเหนี่ยวและทรมาน พฤติกรรมเหล่านี้ดิฉันคิดว่าเข้าข่ายอาชญากรรมต่อมนุษยชาติทั้งสิ้น” พิลเลย์ ระบุ
เธอยังแจ้งต่อคณะมนตรีความมั่นคงว่า ปัจจุบันมีชาวซีเรียถูกคุมขังกว่า 14,000 คน และอีก 12,400 คนต้องหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หลังเกิดเหตุประท้วงรัฐบาลขึ้นเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
พิลเลย์ เผยต่อคณะผู้แทนยูเอ็นว่า สถานการณ์ในซีเรียขณะนี้ “ไม่อาจทนรับได้” อีกต่อไป
เนื่องจากซีเรียไม่ได้ลงนามรับรองธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นจึงเป็นหน่วยงานเดียวที่สามารถส่งคดีดังกล่าวไปยัง ไอซีซี ได้ เช่นเดียวกับที่เคยทำมาแล้วในกรณีของลิเบีย
พิลเลย์ยังกล่าวถึงสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงในเมืองฮอมส์ทางตะวันตกของซีเรีย ซึ่งเด็กวัย 18 เดือนและ 5 ขวบเป็นหนึ่งในผู้เยาว์จำนวนมากที่ถูกหน่วยแม่นปืนสังหารเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
รัสเซีย, จีน, อินเดีย, แอฟริกาใต้ และบราซิล ประกาศคัดค้านหรือสงวนสิทธิ์ในการรับรองมติประณามซีเรียเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเป็นแผนการขั้นแรกของตะวันตกที่จะบีบให้มีการเปลี่ยนแปลงระบอบในซีเรีย
เจอราร์ด อาโรด์ ผู้แทนฝรั่งเศสประจำองค์การสหประชาชาติ ระบุว่า คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นต้องรับ “ภาระรับผิดชอบทางศีลธรรม” หลังจากนิ่งเฉยกับเหตุประท้วงในซีเรียจนมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นรายวัน
“ฝรั่งเศสและสมาชิกคณะมนตรีความั่นคงชาติอื่นๆเห็นว่า การเพิกเฉยครั้งนี้เป็นความเสื่อมเสีย” เขากล่าว
ด้านรัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของดามัสกัส กล่าวโต้ตอบว่า ประเทศตะวันตกเพียงต้องการ “เปลี่ยนระบอบ” เท่านั้น
วิตาลีย์ เชอร์คิน ผู้แทนรัสเซียประจำยูเอ็น ระบุว่า นับตั้งแต่คณะมนตรีความมั่นคงออกแถลงการณ์ประณามซีเรียเมื่อเดือนสิงหาคม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็บ่งชี้ว่า โลกตะวันตกกำลังรุกคืบไปสู่การเปลี่ยนระบอบการปกครองของซีเรีย และไม่สนับสนุนการเจรจา
“อันที่จริงแล้ว พวกเขาเผยเจตนารมณ์อย่างชัดแจ้งว่าต้องการเปลี่ยนระบอบการปกครองในซีเรีย นโยบายนี้เห็นได้ชัดในแถลงการณ์ต่างๆของพวกเขา ซึ่งไม่ช่วยสนับสนุนกระบวนการทางการเมือง” เชอร์คิน กล่าว
องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ประกาศชัดเจนว่า ไม่มีแผนใช้การแทรกแซงทางทหารกับซีเรีย
