เอเอฟพี - ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ประกาศลั่น ไม่ขอยอมก้มหัวแม้ถูกนานาชาติรุมกดดันเหตุปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรง บทสัมภาษณ์ อัสซาด ซึ่งเผยแพร่ลงหนังสือพิมพ์ ซันเดย์ ไทม์ส เผยวันนี้(20)
อัสซาด วัย 46 ปี ให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ของอังกฤษว่า ตนพร้อมจะต่อสู้และตายเพื่อซีเรีย หากถูกต่างชาติแทรกแซง
“นี่คือสิ่งที่แน่นอนที่สุด” อัสซาด กล่าว
ประธานาธิบดีซีเรียยังแสดงความโศกเศร้าต่อการเสียเลือดเนื้อที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่า กรุงดามัสกัสจำเป็นต้องกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธ เพื่อให้กฎหมายบ้านเมืองมีความศักดิ์สิทธิ์
“ความขัดแย้งจะดำเนินต่อไป และจะมีความพยายามกดดันซีเรียให้ยอมจำนนต่อไปอีกแน่นอน” อัสซาด กล่าว
“ผมขอยืนยันว่า ซีเรียจะไม่ก้มหัวให้ใคร และจะพยายามต้านทานแรงกดดันทุกวิถีทาง”
อัสซาด กล่าวหาสันนิบาตอาหรับซึ่งขีดเส้นตายให้ซีเรียยุติการใช้กำลังกับผู้ประท้วงว่า กำลังสร้างบริบทให้ต่างชาติใช้ทหารเข้าแทรกแซง ซึ่งจะทำให้ “แผ่นดินสะเทือน” ไปทั่วทั้งตะวันออกกลาง
“หากพวกเขารู้จักใช้ตรรกะ, มีเหตุผล และมองความเป็นจริง พวกเขาคงไม่ทำเช่นนี้ เพราะผลสะท้อนย่อมเลวร้ายอย่างยิ่ง การแทรกแซงทางทหารจะทำลายความมั่นคงของภูมิภาค และทุกประเทศจะได้รับผลกระทบทั่วถึงกันหมด” อัสซาด กล่าว
ในการให้สัมภาษณ์จากทำเนียบประธานาธิบดีติชรีน ณ กรุงดามัสกัส อัสซาด ระบุด้วยว่า หนทางยุติความรุนแรงที่องค์การสหประชาชาติอ้างว่าได้คร่าชีวิตพลเรือนไปแล้วกว่า 3,500 คนนั้น มิใช่การบังคับให้ซีเรียถอนทหาร
“ทางออกเพียงทางเดียวคือตามล่ากลุ่มติดอาวุธ ป้องกันไม่ให้พวกเขานำเข้าอาวุธจากประเทศใกล้เคียง ป้องกันการทำลายทรัพย์สิน และบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่” อัสซาด ชี้
“เช่นเดียวกับชาวซีเรียคนอื่นๆ เมื่อผมเห็นลูกหลานซีเรียต้องเสียเลือดเนื้อ ผมเองก็เจ็บปวดและเศร้าใจ... เลือดทุดหยดที่สูญเสียไปทำให้ตัวผมเองเป็นทุกข์ด้วย”
“แต่หน้าที่ของผมซึ่งเป็นประธานาธิบดี มิใช่การกล่าวถ้อยคำแสดงความเสียใจ หน้าที่ของผมคือคิดหาวิธีที่จะป้องกันไม่ให้มีการเสียเลือดเนื้อมากไปกว่านี้”
กำหนดเส้นตายที่สันนิบาตอาหรับสั่งให้ซีเรียยุติการสังหารพลเรือน สิ้นสุดลงเมื่อเวลา 22.00 น. GMT วานนี้(19) ทว่า อัสซาด ยังคงเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้อง
“การออกคำสั่งดังกล่าวก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าชาติอาหรับมีปัญหากันเอง และจะเป็นบริบทให้ตะวันตกใช้ทหารเข้าแทรกแซงซีเรีย” อัสซาด กล่าว พร้อมระบุว่า การตัดสินใจระงับสมาชิกภาพของซีเรียในสันนิบาตอาหรับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น “ไม่ตรงประเด็น”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กองกำลังความมั่นคงซีเรียใช้ความรุนแรงเกินเหตุหรือไม่ อัสซาด ก็ยอมรับว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น แต่ยืนยันว่า เป็นความผิดพลาดเฉพาะบุคคลเท่านั้น ไม่ใช่คำสั่งของรัฐ
“เราซึ่งเป็นรัฐไม่เคยมีนโยบายใช้ความโหดร้ายกับพลเมือง... สิ่งที่สำคัญคือต้องตามหาตัวคนผิดมาลงโทษ”
อัสซาด ยังอ้างว่า ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลระบุตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงกว่าความเป็นจริง โดยขณะนี้มีผู้เสียชีวิตไปเพียง 619 คน มิใช่ 3,500 คนตามที่เป็นข่าว และผู้เสียชีวิตทั้งหมดอาจแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ ผู้ประท้วงที่เสียชีวิตจากการยิงต่อสู้ระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและกลุ่มติดอาวุธ, เหยื่อของลัทธิแบ่งแยก และประชาชนที่ถูกฆ่าเพราะสนับสนุนรัฐบาล
นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงซีเรียเสียชีวิตในหน้าที่ไปอีกราว 800 นาย อัสซาด ระบุ
ประธานาธิบดีซีเรียยืนยันว่า การเลือกตั้งทั่วไปจะมีขึ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคมปีหน้า ซึ่งจะทำให้ซีเรียมีรัฐสภาใหม่, รัฐบาลชุดใหม่ และรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะวางแนวทางสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งตัวเขาเองก็พร้อมจะลงจากตำแหน่ง หากพ่ายแพ้การเลือกตั้ง
“ผมยืนอยู่จุดนี้เพื่อรับใช้ประเทศชาติ มิใช่ให้ประเทศชาติมาคอยรับใช้ผม” อัสซาด กล่าว
“หากประธานาธิบดีคือปัจจัยที่จะสร้างความเป็นปึกแผ่นมั่นคงแก่ชาติ เขาก็จะต้องอยู่ทำหน้าที่นั้น แต่หากเขาเป็นสาเหตุของความแบ่งแยก เขาก็ควรจากไปเสีย”