เอเอฟพี/วอลล์สตรีทเจอนัลด์ - วอลล์สตรีทและราคาน้ำมันดิ่งแรงวานนี้ (8) หลังประธานอีซีบีดับกระแสความหวังว่าธนาคารจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลชาติยุโรปเพิ่มเติมเพื่อช่วยยับยั้งวิกฤตหนี้ยูโรโซน และปัจจัยนี้กลบข่าวดีเกี่ยวกับข้อมูลภาคแรงงานที่ส่อแววฟื้นตัวในสหรัฐฯ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 195.72 จุด (1.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,000.65 แนสแดค ลดลง 52.52 จุด (1.98 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,596.69 เอสแอนด์พี ลดลง 26.32 จุด (2.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,234.69
ความเคลื่อนไหวในแดนลบของตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีขึ้นขณะที่ชาติสมาชิกอียูเริ่มประชุมครั้งสำคัญในกรุงบรัสเซลล์เมื่อคืนวันพฤหัสบดี (8) ท่ามกลางความเห็นที่ยังแตกแยกต่อการแก้ไขสนธิสัญญาอียูตามคำเรียกร้องของเยอรมนีกับฝรั่งเศส
ขณะเดียวกัน ตลาดยังขวัญเสียเพิ่มเติมจากความเห็นของประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) หลังจากก่อนหน้านี้ทางอีซีบี ก็เพิ่งหั่นอัตราดอกเบี้ยยูโรโซนลงอีกร้อยละ 0.25 เหลือร้อยละ 1 เท่านั้น
หลังจากปรับลดอันตราดอกเบี้ย มาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีระบุในถ้อยแถลงว่ารัฐบาลต่างๆต้องยายามอย่างที่สุดในการคลี่คลายวิกฤตและเรียกคืนความเชื่อมั่นในยูโร ดับความหวังว่าธนาคารกลางแห่งนี้จะยื่นมือเข้ามาแทรกแซงให้ความช่วยเหลือยูโรโซนเพิ่มเติม “การตัดสินใจขั้นเด็ดขาดอยู่ในมือของเหล่าผู้นำ” เขากล่าว
ปัจจัยแห่งความกังวลข้างต้นก็ฉุดให้ราคาน้ำมันวานนี้ (8) ขยับลงอย่างแรงและนับเป็นการปิดลบรุนแรงที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ แม้มีปัจจัยบวกเกี่ยวข้องจำนวนผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานสหรัฐฯ ที่ลดลงอย่างมาก
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 2.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 98.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.42 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยว่า ยอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ธันวาคม ลดลงอีก 23,000 ราย และเหลือเพียง 381,000 คน อยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 9 เดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะลดลงเพียง 7,000 คนเท่านั้น บ่งชี้ว่าตลาดงานเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น