น้ำมันขยับลงหลังอุปสงค์สหรัฐฯ อ่อนแอ-หุ้นมะกันคงที่

เอเจนซี - ราคาน้ำมันขยับลงเมื่อวันพุธ (7) จากสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นพลิกความคาดหมาย และข้อสงสัยว่าที่ประชุมซัมมิทอียูแก้วิกฤตหนี้ช่วงปลายสัปดาห์นี้จะได้ข้อตกลงที่น่าเชื่อถือหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหลังนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอเมริกามากนัก หลังมีข้อมูลบวกเกี่ยวกับสินเชื่อผู้บริโภคเข้ามาช่วยดันให้วอลล์สตรีทปิดบวกในกรอบแคบๆ

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 79 เซนต์ ปิดที่ 100.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งหล่นลงไปถึง 99.67 ดอลลาร์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.28 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบทั้งสองตลาดขยับลงตั้งแต่ช่วงต้นของการซื้อขายหลังข้อมูลรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 1,340,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะลดลง 600,000 บาร์เรล ขณะที่สต๊อกน้ำมันกลั่นและเบนซิน ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอในชาติผู้บริโภคหมายเลข 1 ของโลก

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (7) ปิดบวกเล็กน้อยจากรายงานอันสดใสเกี่ยวข้องตัวเลขสินเชื่อผู้บริโภคภายในประเทศที่กลบกระแสความกังวลต่อข้อสงสัยว่าที่ประชุมชี้ชะตะยุโรปในวันพฤหัสบดี (8) และวันศุกร์ (9) นี้ จะสามารถบรรลุมาตรการสำคัญที่สามารถคืนความสงบแก่ตลาดได้หรือไม่

หลังจากขยับอยู่ในแดนลบเกือบทั้งวัน ตลาดก็แกว่งตัวกลับมาปิดบวกได้เล็กน้อย จากรายงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่บอกว่าสินเชื่อผู้บริโภคในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 ส่งสัญญาณให้เห็นว่าผู้บริโภคสหรัฐฯหันมาใช้จ่ายมากกว่าที่จะเก็บดอลลาร์ไว้กับตัว

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 46.31 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,196.44 แนสแดค ลดลง 0.35 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,649.21 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.55 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,261.02