น้ำมันทรงตัว-หุ้นสหรัฐฯพุ่งแรงหลังปธ.เฟดเชื่อครึ่งปีหลังศก.ดีขึ้น

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันวานนี้(26)ทรงตัว หลังประธานเฟดเผยไม่มีแผนอัดฉีดเงินกระตุ้นเศษฐกิจสหรัฐฯรอบใหม่ อย่างไรก็ตามคำพูดบางส่วนของ เบน เบอร์นันกี ก็ช่วยส่งให้วอลล์สตรีท ปิดบวกแรง หลังเขาแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจอเมริกาจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ ปิดที่ 85.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ ปิดที่ 111.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นอกจากผิดหวังต่อคำปราศรัยที่ไม่ผูกมัดตนเองของประธานเฟดแล้ว ราคาน้ำมันยังขยับตัวในกรอบแคบๆสืบเนื่องจากนักลงทุนจับดูสถานการณ์เฮอร์ริเคนไอรีนที่จ่อซัดถล่มชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงนิวยอร์กและพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ อันเป็นที่ตั้งของโรงกลั่นน้ำมันและคลังเชื้อเพลิง

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(26) ปิดบวกอย่างแรง เมินคำยืนยันของเบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เผยยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ และพุ่งความสนใจไปที่คำพูดบางส่วนของเขาที่บอกว่าเศรษฐกิจอเมริกาจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 133.88 จุด (1.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,283.70 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 60.12 จุด (2.48 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,479.75 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 17.31 จุด (1.49 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,176.58 จุด

เบอร์นันกี กล่าวปราศรัยกับเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลาง ในแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง แนะนำว่ารัฐบาลสหรัฐฯควรดำเนินการกระตุ้นการสร้างงานแทนอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบเศรษฐกิจรอบใหม่ด้วยมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณระลอก 3 (QE3)

อย่างไรก็ตาม เบอน์นันกี แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยระบุว่าคลื่นความช็อกในช่วงไม่กี่ปีหลังมิอาจเปลี่ยนแปลงความสามารถของประเทศอย่างถาวรได้ กระนั้นเขาเตือนว่าการต่อสู้ทางการเมืองเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินและขาดดุลงบประมาณซ้ำซากในปีนี้ จะก่ออันตรายต่อการฟื้นตัวอย่างรุนแรง