xs
xsm
sm
md
lg

เฟดงัด “Operation Twist” กระตุ้น ศก.แต่หุ้นกับน้ำมันยังปิดลบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ธนาคารกลางสหรัฐฯ เผยเมื่อวันพุธ (21) จะเปลี่ยนเงิน 4 แสนล้านดอลลาร์จากตราสารหนี้ที่ถือครองเป็นพันธบัตรยาวในความหวังอัตราดอกเบี้ยระยะยาวลดลงและกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ปัจจัยนี้มิอาจหยุดยั้งวอลล์สตรีทและราคาน้ำมันให้ปิดตัวในแดนลบ เพราะนักลงทุนผิดหวังที่เฟดไม่มีมาตรการเชิงรุกกว่านี้

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำเตี้ยติดพื้นร้อยละ 0-0.25 ยอมรับด้วยว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ “ยังเป็นไปอย่างเฉื่อยชา”

ในการฟื้นโครงการเข้าซื้อพันธบัตร “Operation Twist” เมื่อปี 1961 ของเฟด ธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่าจะขายพันธบัตรระยะสั้นและเข้าซื้อตราสารหนี้อายุ 6-10 ปีของกระทรวงการคลัง

การกระตุ้นเศรษฐกิจตามแนวทางของ Operation Twist ก็คือการปรับสัดส่วนการถือครองพันธบัตรของเฟดให้เป็นตราสารระยะยาวมากขึ้น และลดการถือครองตราสารระยะสั้น นั่นก็คือการยืดอายุการชำระหนี้ออกไป โดยมีเป้าหมายเพื่อกดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น เลี่ยงการเก็งกำไร และกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น

อนึ่งแผนดังกล่าวไม่ได้เป็นการเพิ่มมูลค่าของพันธบัตรแต่อย่างใด

ทั้งนี้ สหรัฐฯ เคยนำแนวทาง Operation Twist มาใช้แล้วครั้งหนึ่งในช่วงทศวรรษที่ 1960 ซึ่งเป็นช่วงที่เฟดได้เข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว และขายตั๋วเงินคลังระยะสั้น โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเงินผ่านจากจัดการปริมาณเงินในระบบ ก่อนที่จะประกาศใช้อีกครั้งในเดือนมีนาคม 2009 แต่มีเป้าหมายที่ต่างออกไปก็คือเพื่อทำให้ปัจจัยแวดล้อมในระบบการเงินที่ตึงตัวอยู่ผ่อนคลายลง

อย่างไรก็ตาม เฟดยอมรับว่ามีสัญญาณหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าการสร้างงานและการใช้จ่ายผู้บริโภคยังคงอ่อนแอ ขณะเดียวกันภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ยังหดหู่ กระนั้นก็ดี ในทางบวก เฟดระบุว่าธุรกิจต่างๆ กำลังส่งเสริมการลงทุนในด้านเครื่องจักรและซอฟต์แวร์ ส่วนเงินเฟ้อก็ลดมาอยู่ระดับปานกลางหลังพุ่งแรงในช่วงต้นปี

คณะกรรมการกำหนด นโยบายการเงินของเฟด คาดหมายว่าเงินเฟ้อจะทรงตัวอย่างนี้ต่อไปอีกหลายเดือน แต่ก็เตือนถึงความเสี่ยงทางลบต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจในอนาคต ส่วนหนึ่งมาจากความตึงเครียดในตลาดการเงินโลก

ทั้งนี้ มาตรการเปลี่ยนตราสารหนี้ที่ถือครองสู่พันธบัตรยาว ไม่ส่งผลกระทบทางบวกใดๆต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยวานนี้ (21) วอลล์สตรีทปิดในแดนลบอย่างแรง อันเป็นผลมาส่วนหนึ่งในถ้อยแถลงของเฟดที่ยอมรับว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของอเมริกายังคงน่ากังวล

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 106.26 จุด (0.93 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,302.40 จุด แนสแดค ลดลง 4.54 จุด (0.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,585.70 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 14.32 จุด (1.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,187.77 จุด

ด้านราคาน้ำมันวานนี้ (21) ขยับลงจากที่ปรับขึ้นในช่วงต้นของการซื้อขาย หลังเฟดขยายอายุการถือครองพันธบัตรของกระทรวงการคลัง แต่ก็ไม่ได้เปิดตัวมาตรการเชิงรุกใดๆ ที่จะนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 85.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 18 เซ็นต์ ปิดที่ 110.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กำลังโหลดความคิดเห็น